จากกรณีนายจูเซปเป เดอ สเตฟานี อายุ 62 ปี ชาวอิตาลี ถูกฆ่าและนำศพมาเผายางที่บริเวณอ่างเก็บน้ำบ้านบึงทับจั่น หมู่ที่ 3 ต.แหลมรัง อ.บึงนางราง จ.พิจิตร เมื่อวันที่ 19 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยหลักฐานจากชิ้นที่เหลือจากไฟไหม้มีรอยสักที่น่องขวา เป็นรูปกราฟิกสีดำ เป็นสัญลักษณ์ในการสืบหาผู้เสียชีวิต ต่อมาตำรวจทราบว่าคนร้ายที่ก่อเหตุคาดว่าคือ นางรุจิรา คล้ายละมัย อายุ 38 ปี ภรรยาของผู้ตาย และนายฮามัวรี่ ริกกัว ชาวฝรั่งเศส สามีอีกคนหนึ่ง ซึ่งหลังก่อเหตุหลบหนีไป พร้อมด้วยรถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นยาริส สีบรอนซ์ ทะเบียน กค1374 สมุทรสงคราม อ่านข่าว : สยองฆ่าหั่นศพแยก 2 ท่อน ยัดกระเป๋าเดินทางเผานั่งยางกลางป่า ชาวบ้านไปเจอควันยังลอยฟุ้ง

ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อวันที่ 28 ม.ค. พล.ต.ต.ธวัชชัย มวญนรา ผบก.ภ.จว.พิจิตร เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.บึงนาราง ร่วมกับชุดสืบสวน บก.ภ.จว.พิจิตร สนธิกำลังตำรวจสืบสวนภูธรภาค 6 ชุดสืบสวน สภ.โกสัมพีนคร ชุดสืบสวน สภ.วังเจ้า และเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดน ได้ระดมปูพรมตรวจค้นพื้นที่บริเวณรอยต่ออ.โกสัมพีนคร จ.กำแพงเพชร และพื้นที่อ.วังเจ้า จ.ตาก

พล.ต.ต.ธวัชชัย กล่าวว่า จากการตรวจสอบพื้นที่เป้าหมายบริเวณเชิงเขาวังเจ้า ต.เชียงทอง อ.วังเจ้า พบรถเก๋งโตโยต้า ยาริส ทะเบียน กค-1374 สมุทรสงคราม ที่นางรุธจิรา และนายอาโมรี ผู้ต้องหาใช้เป็นพาหนะหลบหนีหลังก่อเหตุฆ่านายจูเซปเป้ โดยพบจอดอยู่ในสวนลำไยพื้นที่ อ.โกสัมพีนคร สภาพถูกสีสเปรย์พ่นเป็นสีดำทั้งคัน เจ้าหน้าที่จึงตรวจยึดมาเป็นหลักฐาน พร้อมระดมเจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งไล่ล่าตัวคนร้ายรายนี้ตามหมายจับศาลจังหวัดพิจิตร โดยคาดว่าทั้งสองจะคงไปไม่ไกลจากพื้นที่จุดที่พบรถเก๋งดังกล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน