ปภ. แจ้งเตือน 10 จังหวัด ลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา รวมถึงกทม. เฝ้าระวังระดับน้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้นช่วง 1-7 ต.ค. ขอให้ปชช.ในพื้นเสี่ยง ติดตามข้อมูลอย่างใกล้ชิด

เมื่อวันที่ 29 ก.ย. 2565 กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงมหาดไทย ได้รับการประสานจากกรมชลประทานและกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ แจ้งว่า เนื่องจากอิทธิพลของพายุโนรู ในช่วงวันที่ 28 ก.ย. – 2 ต.ค. บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพฯ และปริมณฑล ส่งผลให้มีน้ำไหลหลากผ่านเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มมากขึ้น

โดยกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ ได้ประเมินสถานการณ์น้ำลุ่มน้ำเจ้าพระยา คาดว่าจะมีน้ำไหลผ่านบริเวณจังหวัดนครสวรรค์ (C.2) อยู่ในเกณฑ์ 2,500-2,800 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที โดยปริมาณน้ำจะไหลมารวมกับแม่น้ำสะแกกรัง และลำน้ำสาขาไหลเข้าเขื่อนเจ้าพระยา ทำให้ปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มขึ้นอยู่ในเกณฑ์ 2,300-2,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที

ทำให้พื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำ อ.สรรพยา จ.ชัยนาท อ.อินทร์บุรี อ.เมืองสิงห์บุรี อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี อ.ป่าโมกและไชโย จ.อ่างทอง คลองโผงเผง จ.อ่างทอง คลองบางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา อ.เสนาและผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา จ.ปทุมธานี จ.นนทบุรี และจ.สมุทรปราการ มีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้ระดับน้ำด้านท้ายเขื่อนเพิ่มสูงขึ้นประมาณ 30-60 เซนติเมตร ในช่วงวันที่ 1-7 ต.ค.

กอปภ.ก จึงได้แจ้ง 10 จังหวัดลุ่มน้ำเจ้าพระยา ได้แก่ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี ปทุมธานี นนทบุรี และสมุทรปราการ รวมถึงกรุงเทพฯ จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังสถานการณ์ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้น จากการระบายน้ำผ่านท้ายเขื่อนเจ้าพระยาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำน้อย พร้อมแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ริมสองฝั่งแม่น้ำ โดยเฉพาะประชาชนที่อาศัยในพื้นที่ริมน้ำนอกแนวคันกั้นน้ำ และแนวเขื่อนชั่วคราวในบริเวณที่ไม่มีแนวป้องกันน้ำถาวร

รวมถึงพื้นที่จุดเสี่ยงที่เป็นพื้นที่ลุ่มต่ำตามริมแม่น้ำ ให้ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด และแจ้งเตือนผู้ประกอบกิจการในแม่น้ำ อาทิ งานก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่ง แพร้านอาหาร ท่าเทียบเรือโดยสารสาธารณะ ตลอดจนแจ้งจังหวัดประสานท้องถิ่นและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบแนวคันกั้นน้ำ จัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์ เครื่องจักรกลด้านสาธารณภัย และเจ้าหน้าที่ติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์ เพื่อเตรียมความพร้อมปฏิบัติการให้ความช่วยเหลือประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง

ทั้งนี้ ประชาชนในพื้นเสี่ยงภัย ขอให้ติดตามข้อมูลปริมาณน้ำอย่างใกล้ชิด และเตรียมความพร้อมรับมือผลกระทบจากสถานการณ์น้ำ โดยสามารถติดตามประกาศการแจ้งเตือนภัยที่แอปพลิเคชัน “THAI DISASTER ALERT” และหากได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัยสามารถแจ้งเหตุ และขอความช่วยเหลือทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ1784” โดยเพิ่มเพื่อนไลน์ไอดี @1784DDPM รวมถึงสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน