ศรีสะเกษ น้ำท่วมบ้านโพนทราย บ้านโนนเรือ กลายสภาพเป็นเกาะนานกว่า 10 วัน ชาวบ้านขาดแคลนน้ำและอาหาร ยังไร้หน่วยงานเข้าช่วยเหลือ

เมื่อวันที่ 5 ต.ค. 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ถนนสายบ้านสิม ไปยังบ้านโพนทราย–โนนเรือ ต.หนองบัว อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ ขณะนี้ได้มีมวลน้ำจากแม่น้ำมูลไหลทะลักเข้าไปท่วมถนนระดับน้ำสูงประมาณ 2 เมตร เป็นระยะทางยาวประมาณ 4 กม. รถทุกชนิดไม่สามารถผ่านได้ ต้องใช้เรือในการสัญจรเท่านั้น

น้ำได้ท่วมบ้านเรือนของชาวบ้านทั้ง 2 หมู่บ้าน คือบ้านโพนทราย และบ้านโนนเรือ เป็นบริเวณกว้าง ทุ่งนาโดนน้ำท่วมกลายเป็นทะเล บ้านเรือนถูกน้ำท่วมถึงหลังคา ชาวบ้านที่ต้องการออกจากหมู่บ้านไปทำธุระในตัวอ.กันทรารมย์ ต้องใช้เรือออกจากหมู่บ้านเท่านั้น

ขณะที่ชาวบ้านโพนทรายจำนวนหนึ่งต้องพากันมาพักอาศัยอยู่บนถนนกลางหมู่บ้านที่ทางกรรมการหมู่บ้านโพนทรายได้จัดเต็นท์มาเตรียมเอาไว้ ส่วนวัวควายหมู เป็ดไก่ ต้องขนย้ายหนีน้ำท่วมมาอยู่บนที่สูง เพื่อความปลอดภัย

นางคำพันธ์ คำเกิด อายุ 56 ปี ชาวบ้านบ้านโพนทราย กล่าวว่า หมู่บ้านของตนมีจำนวน 180 ครัวเรือน ได้ถูกน้ำท่วมรอบหมู่บ้านกลายเป็นเกาะ ซึ่งบ้านของตนอยู่ในที่ต่ำทำให้ถูกน้ำท่วมถึงหลังคามานานกว่า 10 วันแล้ว ตนต้องอพยพครอบครัวมาพักอาศัยอยู่ที่ถนนกลางหมู่บ้าน ขณะนี้ตนและชาวบ้านโพนทรายทุกคนกำลังได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก

เนื่องจากกำลังขาดแคลนน้ำดื่ม อาหาร ข้าวสาร ยารักษาโรค เพราะมีชาวบ้านเป็นโรคน้ำกัดเท้าจำนวนมาก ตนจึงขอให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้ามาให้การช่วยเหลือด้วย ถึงตอนนี้พวกตนได้รับความช่วยเหลือจากผู้ใจบุญที่นำเอาน้ำดื่มและไข่ 1 ถาด มามอบให้ประทังชีวิตเท่านั้น

ขณะที่บ้านโนนเรือ ต.หนองบัว ที่อยู่ห่างออกไปประมาณ 2 กม. โดยหมู่บ้านแห่งนี้ถูกน้ำท่วมรอบหมู่บ้านกลายเป็นเกาะเช่นกัน ทำให้ชาวบ้านจำนวน 107 ครัวเรือน ถูกตัดขาดจากโลกภายนอก ชาวบ้านกำลังได้รับความเดือดร้อนมาก เพราะขาดแคลนน้ำและอาหารเช่นกัน

นายดน พื้นพรหม ผู้ใหญ่บ้าน ม.2 บ้านโนนเรือ นางวงเดือน วงไชยา นายสุนทร ศรีไชยา ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน นายฉลอง ชาภักดี นักสังคมสงเคราะห์ อบต.หนองบัว และนายชาญชัย ผาลา ประธาน อปพร.หนองบัว ได้นำเรือท้องแบนและเรือหางยาวมาให้การบริการช่วยเหลือชาวบ้านอย่างเต็มที่

โดยได้รับความเมตตาจาก พระครูสุวรรณธรรมวิบูล เจ้าคณะตำบลหนองบัว ซื้อเครื่องยนต์เรือมาติดเรือท้องแบน 1 เครื่อง เป็นเงิน 16,000 บาท และซื้อเครื่องยนต์มาติดเรือหางยาว 1 เครื่อง เป็นเงิน 8,000 บาท พร้อมเงินค่าน้ำมันเชื้อเพลิง จำนวน 5,000 บาท มาไว้ให้บริการช่วยเหลือชาวบ้านในการเดินทางเข้าออกทั้ง 2 หมู่บ้าน

นายสุนทร กล่าวว่า น้ำท่วมครั้งนี้รุนแรงมาก ทำให้ทั้ง 2 หมู่บ้านกลายเป็นเกาะอยู่ท่ามกลางทะเลน้ำจืด และขณะนี้ชาวบ้านทั้ง 2 หมู่บ้านรวมแล้ว จำนวน 287 ครัวเรือน กำลังขาดแคลนน้ำ อาหาร ข้าวสาร และอาหารสัตว์ เนื่องจากว่า น้ำท่วมต้นหญ้าที่เป็นอาหารของวัวควายตายหมด ทำให้วัวควายไม่มีอาหารกิน

อีกทั้งน้ำท่วมทำให้บรรดาผู้ป่วยที่เป็นผู้สูงอายุไม่สามารถที่จะฝ่ากระแสน้ำที่เชี่ยวกรากออกไปรับยารักษาโรคมากินรักษาตัวเองอย่างต่อเนื่องได้ ทำให้ชาวบ้านที่เจ็บป่วยอยู่ในภาวะเสี่ยงอันตรายเป็นอย่างมาก ยังไม่มีส่วนราชการใดเข้ามาให้การช่วยเหลือชาวบ้านแต่อย่างใด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน