ป้าขายผลไม้ ถูก แก๊งตกทอง ป้ายยา รู้ตัวอีกทีโดนปลดทรัพย์สูญครึ่งล้าน

ป้าขายผลไม้ โดน แก๊งตกทอง ออกอุบายหลอกซื้อที่ดิน ก่อนพานั่งรถถูกป้ายยาจนมึนงง โดนสั่งให้ปลดทรัพย์สิน เผย สูญ 5 แสนบาท ในพื้นที่ จ.ตาก

วันที่ 10 ต.ค.2565 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องทุกข์จาก นางอุดม ดอกแก้ว อายุ 65 ปี แม่ค้าขายผลไม้ อาศัยอยู่ที่บ้านพักแห่งหนึ่งในพื้นที่เทศบาลเมืองตาก ต.ระแหง อ.เมือง จ.ตาก ว่า ถูกแก๊งตกทอง มาหลอกขอซื้อที่ดิน ทำให้ถูกปลดทรัพย์ มูลค่าความเสียหายกว่า 5 แสนบาท โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 ต.ค.ที่ผ่านมา

นางอุดม กล่าวว่า ตนมีอาชีพขายผลไม้อยู่บริเวณหน้าบ้าน ค้าขายมานานหลายสิบปี อยู่หลังเทศบาลเมืองตาก แต่ด้วยตนอายุมากเลยตั้งใจจะขายบ้านอีกหลังที่เป็นสมบัติติดตัวอยู่หลังวัดไผ่ล้อม ห่างจาก บ้านหลังที่อยู่อาศัยนี้ประมาณ 1 กิโลเมตร เพื่อจะเก็บเงินไว้ใช้จ่ายเป็นค่าหมอค่ายายามแก่เฒ่า แล้ว จู่ ๆ ในห้วงเดือนที่ผ่านมาก็มีลูกค้าหน้าใหม่ เป็นหญิง 1 คน ชาย 1 คน มาซื้อผลไม้ประจำ พูดจาดี อ้างชื่อ นายปรีชา และ ผู้หญิงชื่อ ทิพย์ มาพูดจาตีสนิท ทำเหมือนคนรู้จักกันมานานแล้ว

ป้าขายผลไม้ โดน แก๊งตกทอง ออกอุบายหลอกซื้อที่ดิน ก่อนพานั่งรถถูกป้ายยาจนมึนงง โดนสั่งให้ปลดทรัพย์สิน

นางอุดม กล่าวต่อว่า วันเกิดเหตุช่วงกลางวันก็มาหาตนที่ร้านแล้วติดต่อขอซื้อบ้านไม้ 2 ชั้นของตนที่เคยประกาศว่า อยากขาย ในราคา 1.5 ล้านบาท โดยบอกว่า เจ้านายสนใจขอให้ตนพาไปถ่ายรูป โดยให้ขึ้นรถยนต์ไปด้วย เมื่อถึงบ้านที่ตนอยากจะขาย ทั้ง 2 คนก็ทำทีเดินชมรอบบ้านแล้วถ่ายรูป จากนั้นก็ชวนให้ตนพาไปดูที่ดินที่มีคนจะขาย บอกว่าอยู่ใกล้ ๆ ศาลหลักเมือง หากตนพาไปจะให้ค่านำพา 5,000 บาท

นางอุดม กล่าวอีกว่า ซึ่งตนไม่ได้สนใจเรื่องเงิน เพราะกำลังดีใจว่าจะขายบ้านของตนได้ ก็เลยถูกพานั่งรถไปบริเวณถนนสายเลี่ยงเมือง อยู่ใกล้ ๆ ศาลหลักเมืองตาก ต.ป่ามะม่วง เมื่อไปถึงก็พบตัวละคร โผล่มาอีกคน อ้างว่าชื่อ ปราณี แสดงตัวว่า เป็นเจ้าของที่ดินริมถนน ตอนแรกต้องการจะขายที่ดินในราคา 3 ล้านบาท แต่เนื่องจากต้องการใช้เงินด่วน เพราะแม่ป่วยเป็นมะเร็งอาการหนัก เลยจะขายในราคา 1.5 ล้านบาท

นางอุดม ดอกแก้ว อายุ 65 ปี แม่ค้าขายผลไม้

นางอุดม กล่าวว่า ระหว่างที่ตนกำลังนั่งอยู่ในรถ ฟังพวกเขาคุยกัน คนร้ายชายหญิง 2 คนแรก ก็หันมาหาตน บอกว่า “ป้าเรามาร่วมหุ้นซื้อที่กันเถอะ คนละ 5 แสน” แล้วก็เอามือมาลูบป้ายที่ตน จากนั้นตนเริ่มอยู่ในอาการมึนงง ถูกสั่งให้ถอดแหวนเพชรเก่าประจำตระกูล และแหวนทองจนหมดมือ คนร้ายยังขับรถพามาธนาคารแห่งหนึ่งริมแม่น้ำปิงในเขตเทศบาลเมืองตาก เพื่อเบิกเงินสดจนหมดบัญชี ประมาณ 60,000 บาท และพามาเอาเงินสดในบ้านอีก 1 แสนบาท และสร้อยคอทองคำอีก 6 บาท รวมมูลค่าทรัพย์สินที่สูญไป ประมาณ 500,000 บาท

นางอุดม กล่าวด้วยว่า จากนั้น คนร้ายที่ชื่อ ปราณี ขอให้ตนมาเป็นเพื่อนที่โรงพยาบาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เพื่อจะไปหาแม่ของคนร้ายตัวละครที่ 3 ที่กำลังรักษาตัวอยู่ โดยเป้าหมายเพื่อจะแยกสลัดคนร้าย 2 คนแรกออกไป เมื่อมาถึงก็ให้ตนนั่งรออยู่ที่เก้าอี้พักรอ บริเวณโถงประชาสัมพันธ์ของโรงพยาบาล

นางอุดม กล่าวต่อว่า แล้วคนร้ายที่ชื่อ ปราณี ก็แยกออกไป ทิ้งให้ตนรออยู่นาน และยังมีการโทรศัพท์มาบอกว่า แม่ดีใจที่ขายที่ได้จนช็อกหมอกำลังช่วย ขอให้ตนรออยู่ที่เดิม ตนก็รอจนผิดสังเกต จึงไป ถามเจ้าหน้าที่ว่าชั้นบนตามที่คนร้ายกล่าวอ้าง เป็นแผนกรักษาโรคมะเร็งมีไหม ซึ่งเจ้าหน้าที่แจ้งว่าไม่มี จึงรู้ตัวว่าถูกมิจฉาชีพ ลักษณะแก๊งตกทองหลอกปลดทรัพย์ จึงรีบไปแจ้งความที่สภ.เมืองตาก ขอให้ช่วยติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป