กรมทะเล บูรณาการกรมเจ้าท่า เตรียมติดตั้งทุ่นผูกเรือเพื่อการท่องเที่ยวทางทะเลจังหวัดกระบี่ หวังลดผลกระทบต่อปะการัง แจ้งสายด่วน 1362 ตลอด 24 ชม.
เมื่อวันที่ 16 ต.ค. นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) กล่าวว่า ตนได้มอบหมายให้นายวิษณุ แจ้งใจ ผอ.สำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 10 (สทช.10) นำเรือทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง 217 พร้อมเจ้าหน้าที่ สนับสนุนการปฏิบัติงานโครงการติดตั้งทุ่นผูกเรือเพื่อการอนุรักษ์ทรัพยากรปะการังในพื้นที่ท่องเที่ยวทางทะเล จังหวัดกระบี่
โดยมีนายวีระพันธุ์ ทองมาก ผอ.ส่วนฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเล กองอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล และเจ้าหน้าที่สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขากระบี่ ร่วมตรวจสอบพื้นที่ เพื่อขออนุญาตติดตั้งทุ่นผูกเรือในพื้นที่จังหวัดกระบี่ เป็น 8 แห่ง รวม 100 จุด ได้แก่ เกาะงั่ง 10 จุด เกาะลันตาใหญ่ 40 จุด เกาะกลาง 5 จุด เกาะกำนุ้ย 10 จุด เกาะกำใหญ่ 6 จุด เกาะบูบู 7 จุด เกาะปอ 17 จุด และเกาะเหล็ก 5 จุด
การท่องเที่ยวทางทะเลในเขตพื้นที่อันดามัน โดยเฉพาะหัวใจสำคัญอย่างจังหวัดภูเก็ต ได้ถูกนำมาพัฒนาด้านการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่องและสร้างรายได้เข้าประเทศเป็นจำนวนมากและกิจกรรมการท่องเที่ยวทางทะเลที่สำคัญได้แก่ กิจกรรมดำน้ำดูปะการัง ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวนั้นหากได้รับการจัดการไม่ดีพอ อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อแนวปะการังเป็นจำนวนมากได้เช่นกัน ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ได้บูรณาการกับหลายหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนในการดำเนินงานบริหารจัดการด้านการท่องเที่ยวทางทะเลเพื่อการลดผลกระทบต่อระบบนิเวศของปะการัง ซึ่งเป็นนโยบายของ นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (รมว.ทส.) เรื่องการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล
ทั้งนี้การร่วมมือระหว่างกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กับสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขากระบี่ ในครั้งนี้นับว่าเป็นการปฏิบัติงาน และร่วมกันบูรณาการเพื่อป้องกันลดผลกระทบที่ทำให้แนวปะการังเสียหายได้ ทั้งนี้อยากให้พี่น้องประชาชนช่วยกันอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลเพื่อคงความสมบูรณ์ไว้ตลอดไป
สุดท้ายนี้ อยากฝากถึงพี่น้องประชาชนให้รักและหวงแหนในสิ่งแวดล้อม และเป็นกระบอกเสียงที่สามารถสื่อสารออกไปให้สังคมได้เห็นถึงคุณค่าของทรัพยากรทางทะเลที่เป็นสมบัติของทุกคนในประเทศอีกด้วย และสามารถแจ้งเบาะแสมายังสายด่วนพิทักษ์ป่าและรักษาทะเล โทร. 1362 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในแต่ละพื้นที่เข้าตรวจสอบได้ทันท่วงที ต่อไป
