น้ำท่วม-อากาศเย็น กระทบแหล่งปลูกผัก ราคาแพงพุ่งกระฉูด บางชนิดขาดตลาดไม่มีขาย

พิจิตร น้ำท่วมใหญ่ยาวนาน อากาศเริ่มหนาวเย็น ส่งผลกระทบแหล่งปลูกผักหลายพื้นที่ ส่งผลผักมีจำกัด ราคาแพงพุ่งกระฉูดขึ้นเท่าตัว บางวันผักบางชนิดขาดตลาดไม่มีมาจำหน่าย

19 ต.ค. 65 – ผู้สื่อข่าวได้ไปสำรวจ ราคาผักช่วงสถานการณ์น้ำท่วม ที่ตลาดเทศบาลสอง เทศบาลเมืองพิจิตร พบผักหลายชนิดมีราคาที่แพงขึ้นเป็นเท่าตัว

จากการสอบถามพ่อค้าแม่ค้าในตลาดสดเทศบาล 2 ปรากฏว่า หลังจากเกิดน้ำท่วม ประกอบกับอากาศหนาวเย็น ทำให้ราคาผักต่างๆ คื่นช่าย เดิมราคา 50-60 บาท ขณะนี้ 200 บาท ถั่งฝักยาว 20-30 ขึ้นมาเป็นกิโลกรัมละ 100 บาท มะเขือกอบ เดิม 15-2 ขึ้นราคามาเป็น 40-50 บาท

พริกขี้หนู เดิม 70-80 ขึ้นมาเป็น 150 บาท ผักชีไทยเดิมกิโลกรัมละ 20 บาท ขึ้นมาเป็น 40-50 บาท ผักชี เดิมกิโลกรัมละ 50 บาท ขึ้นมาเป็น 150 บาท ผักชะอม กำละ 10 บาท ขึ้นมาเป็น 25-30 บาท

นางจันทิมา ศรีวัฒนาทรัพย์ และพ่อค้า-แม่ค้าในตลาดเทศบาล 2 กล่าวว่า ว่า หลังเกิดน้ำท่วมในพื้นที่ของภาคเหนือ และภาคกลาง เป็นบริเวณกว้าง ทำให้แหล่งปลูกผักแหล่งใหญ่ชนิดต่างๆ ของเกษตรกร ได้รับความเสียหายไปจำนวนมาก

ส่งผลให้ผักชนิดต่างๆ มีผลผลิตที่น้อยลง และจัดหามาจำหน่ายให้ลูกค้ายาก และถ้ามีก็มีจำนวนจำกัดก่อนนำมาขายให้ลูกค้า บางชนิดบางวันก็ขาดตลาดไม่มีมาขายให้ลูกค้า อีกทั้งพ่อค้าแม่ค้าต้องสั่งจอง ออเดอร์ผักจากพื้นที่อื่นๆ มาจำหน่ายแทน

ทำให้ต้นทุนการขนส่งเพิ่มขึ้นด้วย ตลอดจนต้องมัดจำเงินค่าผักให้เกษตรกรหรือพ่อค้าคนกลางก่อนล่วงหน้า มิฉะนั้นจะถูกตัดออเดอร์ยอดสั่งจองลงหรือก็ไม่มีผักมาส่งขายย่อยให้ลูกค้า

นางจันทิมา กล่าวอีกว่า สำหรับราคาผักในช่วงนี้ถือว่า แพงขึ้นกว่าช่วงเทศกาลกินเจที่มามาอีก โดยเฉพาะผักกาดกวางตุ้งจาก กก.ละ 20 บาท ปรับขึ้นเป็น กก.ละ100 บาท ถั่วฝักยาว จาก กก.ละ 50บาท ปรับขึ้นเป็น กก.ละ 100 บาท พริกขี้หนูจาก กก.ละ 80 บาท ปรับขึ้นเป็น 150 บาท

กะหล่ำปลีจาก กก.ละ 20 บาท ปรับขึ้นเป็น กก.ละ 50-60 บาท มะเขือ จากกก.ละ 20 บาท ปรับขึ้นเป็น กก.ละ 50-60 บาท ชะอมเดิมกำละ 10บาท ขึ้นเป็นกำลัง 25 บาท ผักชีเดิม กก.ละ 50 บาท ปรับขึ้นมา กก.ละ 140 บาท รวมทั้งใบกะเพรา โหรพา ปรับราคาขึ้นเท่าตัวเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม ราคานี้ยังคงมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอีก เพราะเกษตรกรต้องรอระดับน้ำท่วมลดลงถึงจะทำการฟื้นฟูเพาะปลูกได้ใหม่ต้องใช้ระยะเวลา