ที่หอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบเฉลิมพระชนมพรรษาฉะเชิงเทรา หอดูดาวภาคตะวันออก เต็มไปด้วยความคึกคัก มีนักเรียน ประชาชนทั่วไปจำนวนกว่า 1,000 คน ออกมาชมปรากฏการณ์จันทรุปราคา บลูมูน และซูเปอร์มูน โดยมีนายวรวิทย์ ตันวุฒิบัณฑิตย์ ปราชญ์ภูมิปัญญาท้องถิ่นด้านดาราศาสตร์ไทย และที่ปรึกษาหอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบเฉลิมพระชนมพรรษานำชม ให้ความรู้อย่างใกล้ชิด
มีการตั้งกล้องโทรทรรศน์ให้ชมดวงจันทร์ 6 ตัว พร้อมฉายภาพปรากฏการณ์ผ่านจอโปรเจ็กเตอร์ ตั้งแต่เข้าเงามัว, เริ่มเข้าคราส, จันทรุปราคาเต็มดวง, การออกจากเงามัวและสิ้นปรากฏการณ์ และถ่ายทอดสดสัญญาณไปยังสถาบันวิจัยดาราศาสตร์เพื่อถ่ายทอดสดอีกด้วย
ที่จ.ประจวบฯ บ้านรวมไทย ม.7 ต.หาดขาม อ.กุยบุรี ชาวบ้านนำทั้งโทรศัพท์มือถือ กล้องถ่ายรูป กล้องวีดีโอ มาถ่ายภาพเก็บไว้เป็นที่ระลึก และพากันเคาะปี๊บ กาละมัง รวมทั้งจุดประทัดจนดังไปทั่วหมู่บ้าน ทั้งยังนำสากมาตำที่โคนต้นไม้เพราะเชื่อว่าจะทำให้ต้นไม้ออกผลดก
ส่วนที่ชายหาดริ้น อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี จัดงานฟลูมูนปาร์ตี้ บรรยากาศเต็มไปด้วยความคึกคัก นักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งจากยุโรป เอเซีย และคนไทย แห่มาเที่ยวงานและเพื่อรอชมปรากฎการณ์จันทรุปราคา บลูมูน และซูเปอร์มูน ในเวลาเดียวกัน
ที่จ.นครราชสีมา ตำหนักท้าวเวสสุวรรณ ริมถนนมิตรภาพขาไป จ.นครราชสีมา กิโลเมตรที่ 43-44 หมู่ที่ 3 ต.กลางดง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา มีประชาชนต่างเข้าไปกราบไหว้ พระราหู นำของดำ 8 อย่างไหว้ และไหว้ท้าวเวสสุวรรณองค์ใหญ่ขอพร เนื่องจากโอกาสแบบนี้หายาก จึงมีการไหว้และเดินอธิษฐานจิตขอพรรอบองค์ราหู และรอบองค์ท้าวเวสส
ที่จ.ร้อยเอ็ด ช่วงเวลา 19.15-21.07 น. ฟ้าเปิด ชาวบ้านทั้งในตัวเมืองและชนบทมองเห็นจันทรุปราคา หรือชาวอีสานเรียกว่า “กบกินเดือน” อย่างชัดเจน ชาวบ้านที่ยังเชื่อตามคำโบราณ พากันเคาะไม้ตีปี๊บให้เกิดเสียงดังไล่กบกินเดือน ขับไล่พระราหูให้คลายออกโดยเร็ว เพื่อให้หายทุกข์โศก หายโรคภัย บางตนเคาะที่ต้นไม้เพื่อให้ลูกดกและลูกใหญ่ หรือเคาะกระเป๋าสตางค์ ให้มีเงินเต็มกระเป๋า
ที่สนามฟุตบอลโรงเรียนแก่นนครวิทยาลัย จ.ขอนแก่น มีนักเรียนและประชาชนพากันมาชมความสวยงามของปรากฏการณ์จันทรุปราคา มีการนำกล้องโทรทรรศน์มาติดตั้งด้วย ทันทีที่พระจันทร์ส่องแสงสีแดง ผู้มาเฝ้ารอชมต่างส่งเสียงฮือฮา นายสุขสันต์ การสะอาด อาจารย์ประจำภาควิชาวิทยาศาสตร์ โรงเรียนแก่นนครฯ กล่าวว่า แม้สภาพอากาศช่วงเย็นจะปกคลุมไปด้วยก้อนเมฆ แต่ก็ยังคงลอยมาตามเวลาที่กำหนด เริ่มโผล่พ้นขอบฟ้าแม้จะไม่เต็มดวง แต่ช่วงเวลา 18.45 น. เป็นต้นไปเริ่มลอยขึ้นมาเต็มดวง สวยงามอย่างมาก
ที่จ.สุรินทร์ ประชาชนส่วนใหญ่ต่างให้ความสนใจกับปรากฏการณ์ดังกล่าว บางคนออกมาชะเง้อดูนอกบ้าน บางคนพากันมายืนถ่ายภาพบันทึกไว้เป็นที่ระลึก หลายพื้นที่จุดพลุ ประทัดเพื่อขับไล่สิ่งไม่ดีและสิ่งชั่วร้าย
