ลงดาบ ‘จ่าเบิร์ด’ ผู้การสั่งไล่ออกจากราชการ รัวยิงอริดับคาผับ ไม่ตัดปมชู้สาว หุ้นส่วนเผยเคยเป็นการ์ดที่นี่มาก่อน จึงไม่ได้ค้นอาวุธ ที่ผ่านมานิสัยดีมาตลอด
กรณี จ.ส.ต.ชุติพนธ์ นาคแก้ว หรือจ่าเบิร์ด ผบ.หมู่งานป้องกันและปราบปราม สภ.บ้านหนองเอื้อง อ.ปะเหลียน จ.ตรัง ปฏิบัติหน้าที่ช่วยราชการชุดปฏิบัติการพิเศษศรีตรัง (S.W.A.T) ภ.จว.ตรัง ใช้ปืนยิงนายจิตกร อายุ 32 ปี คนสนิทนักการเมืองท้องถิ่น และคนมีชื่อเสียงของ จ.ตรัง 10 นัดเสียชีวิต ถูกเพื่อนผู้ตายบาดเจ็บ นักเที่ยวถูกลูกหลง 1 ราย เหตุเกิดในสถานบันเทิง ต.บ้านโพธิ์ เมื่อกลางดึกวันที่ 25 ต.ค. ด้านผกก.เผยจ่าเบิร์ดมีความประพฤติดี เร่งประสานแม่-เมีย ช่วยเจรจามอบตัว หวั่นฆ่าตัว ตามที่เสนอข่าวไปนั้น
ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 25 ต.ค.65 พล.ต.ต เชาวลิต เลี้ยงสุพงศ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ตรัง พร้อมรองผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ตรังและผู้กำกับการ สภ.เมืองตรังเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุอีกครั้ง โดยมี นางวรรณา หรือเอียด อายุ 57 ปี กับนายสมจิตร อายุ 58 ปี 2 สามีภรรยาที่เป็นหุ้นส่วนผับดังใจกลางเมืองตรัง เข้าร่วมตรวจสอบด้วย โดยในที่เกิดเหตุ ยังพบกองเลือดนองพื้น และพบรองเท้าของผู้บาดเจ็บตกอยู่
พล.ต.ต เชาวลิต กล่าวว่า จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุและรูปคดี เป็นการกระทำผิดส่วนตัว ซึ่งก็ดำเนินคดีไปตามหลักกฎหมายอยู่แล้ว และให้ความยุติธรรมทั้ง 2 ฝ่าย ตอนนี้ยังไม่ทราบว่าผู้ต้องหาหลบหนีไปอยู่ที่ไหน แต่เชิญคุณแม่และภรรยามาพูดคุยแล้ว แต่ยังไม่ทราบว่าจ.ส.ต.ชุติพนธ์ไปอยู่ที่ไหน เพราะขาดการติดต่อกับคุณแม่และภรรยาด้วย
เบื้องต้นทางวินัยสั่งไล่ออกไว้ก่อนแล้ว เนื่องจากมีความผิดทางอาญา ซึ่งยืนยันว่าที่ผ่านมาจ่าเบิร์ด เป็นคนเรียบร้อยและใจเย็น สามารถคุมลูกน้องได้ดี ส่วนปมสาเหตุยังคงเป็นเรื่องของการเขม่นกันในร้าน แต่ยังคงไม่ตัดประเด็นชู้สาวทิ้ง ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างขออำนาจศาลออกหมายจับแล้ว
ด้านนางวรรณา อายุ 57 ปี หุ้นส่วนผับ กล่าวว่า ปกติจะตรวจอาวุธก่อนเข้าร้านทุกคน มีกล้องวงจรปิดทุกจุด และมีการ์ดอยู่หน้าร้าน ซึ่งตำรวจที่ก่อเหตุเป็นการ์ดเก่าที่ทำงานอยู่ที่นี่ น้องนิสัยดีมาก แต่เคยบอกกับตนว่า เขาเหนื่อยกับการเป็นทำงาน จึงขอพักงานการ์ด
ซึ่งตนก็ยังบอกกับผู้ก่อเหตุว่า ผู้ก่อเหตุเป็นคนดี ตน (ป้าเอียด) ก็ยังเสียดายเลย แต่เขาขอพักจากงานการ์ดไปด้วยความดี แต่ตอนมาเมื่อคืนนี้การ์ดก็ตรวจแล้ว แต่เข้าใจว่าเป็นคนที่เคยอยู่ด้วยกันมา และเขาเป็นตำรวจ ซึ่งทางร้านตรวจเข้ม แต่ตำรวจที่มาส่วนใหญ่มีจรรยาบรรณ ไม่พกพาอาวุธเข้ามา เพื่อไม่ให้เจ้าของร้านหนักใจ แต่วันนี้ไม่รู้เป็นอะไรขึ้นมา
“ความรู้สึกหลังเกิดเหตุคือเสียใจมาก เพราะ 1.ไม่ใช่เป็นความผิดของร้าน และ 2.คือหลังจากนี้จะไปทางไหนต่อ เพราะมีลูกน้องต้องดูแลอีกหลาย 10 ชีวิต เสียใจมากที่เจ้าหน้าที่มาก่อเหตุเช่นนี้เสียเอง ซึ่งการที่เราไม่ค้น เพราะเราให้เกียรติ แต่เหตุการณ์เกิดขึ้นแล้วก็ต้องแก้ไขกันไป
อยากจะให้ทางราชการพิจารณาอย่าสั่งปิดร้าน เพราะร้านเพิ่งพ้นเพิ่งฟื้นจากโควิด หากปิดพนักงาน รวมทั้งครอบครัวของเขา จะอยู่กันยังไง จึงอยากให้ทบทวนด้วย เพราะข้าราชการตำรวจเป็นผู้ก่อเหตุเอง” นางวรรณา กล่าว
