นักพนันแฉเอง “ใครบอกไม่มีบ่อน” กล้าชี้ให้ดูได้ ตร.โทรเคลียร์ ขอเปิดหน้าสู้ หลังโดนอุ้มรีดเงิน

เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 28 ต.ค.65 ที่ สน.โคกคราม นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจ สายไหมต้องรอด พากลุ่มนักพนันไปแจ้งความ กรณีที่ไปเล่นพนันที่บ่อนในซอยรามอินทรา 40 แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม กทม. แล้วถูกเด็กคุมบ่อนอุ้มไปรีดเงินไปเกือบ 5 ล้านบาท เหตุเกิดเมื่อวันที่ 19 ส.ค.ที่ผ่านมา

นายเอกภพ กล่าวว่า อยากให้ตำรวจตรวจสอบดำเนินการกับเรื่องที่เกิดขึ้นให้ชัดเจน ตำรวจจะต้องปราบปรามอย่างจริงจัง ทั้งในส่วนของนักพนันและบ่อนการพนัน เพราะผู้เสียหายเองก็มีความผิดที่ไปเล่นพนัน ต้องถูกดำเนินคดีเช่นกัน ส่วนบ่อนการพนันตำรวจก็ต้องปราบปรามอย่างจริงจังเช่นกัน

แต่ที่ข้องใจคือ มีนายตำรวจระดับสูงของโรงพักโทรศัพท์ไปเจรจากับผู้เสียหาย แต่ไม่ได้สอบถามถึงพฤติการณ์ที่ถูกคนร้ายกระทำ แต่กลับไปสอบถามให้ความสำคัญว่าผู้เสียหายโกงบ่อนจริงหรือไม่ เบื้องต้น จะแจ้งความดำเนินคดีผู้ที่ก่อเหตุในข้อหา ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น, ร่วมกันปล้นทรัพย์ และร่วมกันกักขังหน่วงเหนี่ยว

น.ส.เอ (นามสมมติ) ผู้เสียหาย กล่าวว่า มาเล่น 4 ครั้ง ก็มีได้มีเสียหลักหมื่นถึงหลักแสนบาท โดยยืนยันไม่ได้โกงเจ้ามือ เพราะก่อนจะตัดสินใจจะมาเล่นได้ตรวจสอบข้อมูลว่าบ่อนแห่งนี้มีความน่าเชื่อถือ จึงไปเล่นที่บ่อนแห่งนี้

นอกจากนี้ หลังจากเกิดเหตุ ตนได้ให้ผู้ใหญ่โทรมาเคลียร์กับตำรวจชั้นผู้ใหญ่ของ สน.โคกคราม หลายครั้งแล้ว แต่ก็เงียบไม่เป็นผลอะไร จนล่าสุดตำรวจชั้นผู้ใหญ่กลับถามว่า “เรื่องยังไม่จบอีกหรอ ที่เขาทำแบบนั้น เพราะเราไปโกงเขาไม่ใช่เหรอ” และลักษณะการพูดคุย ตำรวจดูเหมือนเอนเอียงเข้าข้างกับทางบ่อนมากกว่าตน ทั้งที่เป็นผู้เสียหาย ตนมองว่ามันไม่แฟร์

“มองว่าตำรวจน่าจะรู้จักกับเจ้าของบ่อน ถ้าไม่รู้จักคงไม่โทรมาเคลียร์ และไม่พยายามยื้อเวลาให้เราได้คุยกับอีกฝ่าย แทนที่จะรับแจ้งความ เราเข้าใจว่าจุดประสงค์ที่ตำรวจโทรมาเคลียร์ เป็นเพราะสน.และบ่อนได้รับผลกระทบ ยืนยันว่าสถานที่ที่เราเล่นคือ บ่อนการพนันจริงๆ แม้ว่า ตำรวจจะเข้าไปตรวจสอบแล้ว มีเพียงแค่โต๊ะสนุ๊กก็ตาม เราได้ถ่ายรูปสถานที่และบรรยากาศภายในบ่อนไว้อย่างชัดเจน” น.ส.เอ กล่าว

ด้าน ลุงอ้วน กล่าวว่า ในกรุงเทพมหานครมีบ่อนการพนันกว่า 100 แห่ง แต่ในย่านโคกครามมีอยู่ 3 แห่งที่ตนเคยไปเล่น มีเจ้าของเป็นคนจีน ชื่อย่อ ต. แม้ตำรวจจะยืนยันว่าไม่มีบ่อนก็ตาม ตนก็สามารถชี้จุดได้เลยว่าในนครบาล มีบ่อนที่ไหนบ้าง ซึ่งปกติด้านหน้าของบ่อนจะเป็นโต๊ะสนุ๊ก ส่วนข้างในก็จะเป็นโต๊ะการพนันทั้งหลาย

เป็นปกติที่ตำรวจจะบอกว่าไม่มีบ่อน ตนเล่นพนันมานาน บ่อนใน กทม. ตนก็เล่นมา 3 ปีแล้ว ช่วงโควิดก็ปิดบ้างไม่ปิดบ้างสลับกันไป แต่ส่วนมากบ่อนจะปิดในช่วงเดือนที่ตำรวจกำลังโยกย้ายตำแหน่ง ช่วงนั้นก็จะปิดชั่วคราว แต่พอเสร็จแล้วก็จะกลับมาเปิดบ่อนตามปกติ ซึ่งเรื่องนี้นักพนันรู้ดี

ตนโดยยอมรับว่าเดินสายเล่นพนันตามบ่อนต่างๆ มาตลอดชีวิต ไม่ต่ำกว่า 40 แห่ง ถือเป็นครั้งแรกที่มาเจอบ่อนที่หักลูกค้าแบบนี้ โดยการข่มขู่ทำร้ายร่างกายไม่ยอมจ่ายเงินให้ลูกค้า ซึ่งขณะเกิดเหตุที่เจ้ามือสงสัย ตนก็ยินยอมให้ตรวจค้นแต่โดยดี แต่ก็ไม่พบสิ่งผิดปกติ เรื่องก็น่าจะจบ แต่พวกตนกลับถูกอุ้มรีดทรัพย์ เหมือนเจ้ามือมีเจตนาที่จะไม่ยอมจ่ายเงิน แจ้งความไปคดีก็ไม่คืบหน้า ตอนนี้ไม่มีอะไรจะเสีย จึงเปิดหน้าสู้เรียกร้องความเป็นธรรม

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน