เมื่อเวลา 05.00 น. วันที่ 2 ก.พ. พ.ต.ท.ไชยา มณีสุทธิ์ ร้อยเวรสอบสวน สภ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว รับแจ้งเหตุรถกระบะบรรทุกแรงเถื่อนพลิกคว่ำ ที่ถ.สายบายพาส หน้าวัดสวนกวาง ต.บ้านใหม่หนองไทร อ.อรัญประเทศ หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และรุดไปตรวจสอบพร้อมกู้ภัยอรัญประเทศ

ที่เกิดเหตุในป่าข้างทางพบรถกระบะ ยี่ห้อโตโยต้า ป้ายแดง 4 ประตู สีบรอนซ์ ทะเบียน ก-1097 สระแก้ว สภาพพังยับเยินเนื่องจากพลิกคว่ำหลายตลบ จากถนนลาดยางมาในป่ากว่า 30 เมตร ภายในรถพบมีแรงงานนั่งแออัดกันจำนวนมาก นอกจากนี้ บริเวณที่รถพลิกคว่ำมีแรงงานกระเด็นออกมาจากรถหลายราย และมีผู้เสียชีวิตชาวกัมพูชาเป็นชาย 1 ราย และหญิง 1 ราย เจ้าหน้าที่จึงเร่งนำคนเจ็บส่งโรงพยาบาลอรัญประเทศ รวมทั้งหมด 13 คน เด็ก 1 คน ส่วนคนขับหลบหนีไปได้

ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลอรัญประเทศ มีเสียงร้องครวญครางของแรงงานที่ได้รับบาดเจ็บ และพบนายทน พร้อมลูกน้อยวัย 4 เดือน ที่กำลังนั่งร้องไห้ เมื่อทราบว่าภรรยาซึ่งเป็นแม่ของลูกเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ

จากการสอบถามนายทน กล่าวว่า พวกตนอยู่บายเจือน จ.บันเตียเมียนเจย ซึ่งอยู่ตรงกับอ.โคกสูง จ.สระแก้ว ก่อนเกิดเหตุพวกตนกำลังเดินทางไปทำงานที่ตลาดไท กรุงเทพฯ มาด้วยกันทั้งหมด 15 คน ถ้ารวมลูกสาวและคนขับเป็น 17 คน ถึงที่เกิดเหตุตนไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น ทำให้รถพลิกคว่ำหลายตลบเป็นเหตุให้ภรรยาของตนเสียชีวิตดังกล่าว ทั้งนี้ ลูกของตนยังไม่อดนมแม่เลย ซึ่งหลังจากนี้ ยังไม่รู้เลยว่าจะทำอย่างไรต่อไป และจะหาเงินไปซื้อนมให้ลูกได้อย่างไร เพราะขณะนี้ตนก็ได้รับบาดเจ็บ

สำหรับขบวนการขนแรงงานเถื่อนถึงแม้ว่าเจ้าหน้าที่จะเข้มงวดมากก็ตาม แต่เนื่องจากรายได้ที่จูงใจถึงหัวละ 2,000 กว่าบาท จึงทำให้มีบางคนเข้าไปร่วมมือกับขบวนการขนแรงงานเถื่อน พอทางการปราบปรามก็จะหยุด พอเรื่องเงียบก็กลับขนกันอีก

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน