ปทุมธานี / ผู้การปทุมฯ สั่งทุกโรงพัก คุมเข้มพื้นที่ จัดชุดไล่ล่า ลาดตระเวนพื้นที่ ป้องกันเหตุลักจยย. – ยาเสพติด

จากกรณีเพจเฟซบุ๊ก “ปทุมธานีที่นี่มีแต่เรื่อง” ได้โพสต์ข้อความ กล้องวงจรปิดจับภาพคนร้าย 2 คน ใช้รถ จยย.เป็นยานพาหนะ ก่อเหตุลักทรัพย์รถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้ารุ่นเวฟ 125 ซีซี สีขาว หมายเลขทะเบียน 1 กด 1272 สระบุรี ผู้เสียหายจอดไว้หอพักแห่งหนึ่ง ภายในซอยมาลีแมนชั่น ม.1 ต.คลองหก อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ทราบหาย 20 ต.ค. 2565 ที่ผ่านมา ผู้เสียหายแจ้งความไว้ที่ สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี พร้อมทั้งเขียนข้อความให้ทุกคนระวังภัย ระวังภัย!!! ตอนนี้รถจักรยานยนต์หายบ่อยเดี๋ยวจะทยอยลงคลิปวงจรปิด เพื่อให้เพื่อนๆ ช่วยแจ้งเบาะแสกันสิ่งที่จะช่วยป้องกันได้นั้น

เมื่อวันที่ 4 พ.ย. 2565 ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี (บก.ภ.จว.ปทุมธานี) พล.ต.ต.ชุมพล ชาญชนะโยธิน ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี เปิดเผยว่า หลังเมื่อวันที่ 20 ต.ค. มีเหตุลักรถจักรยานยนต์ ที่หอพักย่านคลองหก อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี และได้โพสต์ลงสื่อโซเชียลให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยติดตามจับกุมคนร้าย ภ.จว.ปทุมธานี ได้สั่งการให้ กองกำกับสืบสวน จ.ปทุมธานี และฝ่ายสืบสวน สภ.คลองห้า ดำเนินการสืบสวนหาข่าว

จากการตรวจสอบข้อมูลจากกล้องวงจรปิด ทั้งของทางราชการและเอกชน ตลอดจนการตรวจสอบข้อมูลบุคคลพ้นโทษ จากฐานข้อมูลบุคคลพ้นโทษ สามารถสืบสวนทราบกลุ่มคนร้าย ซึ่งเป็นแก๊งนายกล้า มีการกระทำผิดในรูปแบบขบวนการมีการแบ่งหน้าที่กันทำ คนหนึ่งทำหน้าที่ใช้เหล็กแหลม หรือปีกเครื่องบิน แทงที่รูกุญแจรถ คนหนึ่งทำหน้าที่ขับรถ คนหนึ่งทำหน้าที่หาเป้าหมายและนำรถที่ได้จากการลักมาไปขาย

กลุ่มนี้มีผู้ร่วมขบวนการ 4 คน สามารถจับกุมตัวได้แล้ว 1 คน อีก 3 คน ออกหมายจับไว้แล้ว ในส่วนการดำเนินคดี ได้สั่งการพนักงานสอบสวนให้ใช้มาตรการคดีฟอกเงินและยึดทรัพย์ผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าวด้วย ที่มีพฤติกรรมก่อเหตุเป็นปกติธุระหรือเป็นอาชีพและได้ทรัพย์สินจากการกระทำความผิด เนื่องจากเป็นความเดือดร้อนของประชาชน

“ที่ผ่านมา จับกุมกลุ่มแก๊งลักรถจักรยานยนต์ไปแล้ว จำนวน 6 แก๊ง ผู้ต้องหา 21 คน ในพื้นที่ จ.ปทุมธานี ส่วนใหญ่ที่เกิดเหตุมากที่สุดอยู่ในพื้นที่สภ.คลองหลวง สภ.ลำลูกกา ซึ่งเป็นพื้นที่ที่กำลังขยายตัว เนื่องจากเป็นพื้นที่อุตสาหกรรม สถานศึกษาระดับอุดมศึกษาหลายแห่ง อีกที่พักอาศัย บ้านจัดสรร คอนโด หอพัก ทำให้มีเหตุความผิดเกี่ยวกับทรัพย์เพิ่มสูงขึ้น

นอกจากนี้ พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบช.ภ.1 ตระหนักถึงความสำคัญในการสืบสวนจับกุม จึงได้ประสานสำนักงานตำรวจแห่งชาติตามนโยบายของ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข อดีต ผบ.ตร. ดำเนินการโครงการ “ เพิ่มประสิทธิภาพการสืบสวน และป้องกันปราบปรามอาชญากรรมโดยใช้ระบบกล้องโทรทัศน์วงจรปิด ( CCTV)” ในพื้นที่จ.ปทุมธานี มีแผนการติดตั้งกล้องวงจรปิด จำนวน 1,270 จุด กล้อง 1,700 ตัว

ขณะนี้ติดตั้งไปแล้ว 1,021 จุด กล้อง 1,000 ตัว โดยดำเนินการไปแล้วกว่าร้อยละ 60 ซึ่งขณะได้เร่งรัดให้ทุก สภ.ในสังกัด ประสานเจ้าหน้าที่การไฟฟ้า ดำเนินเชื่อมต่อให้ครบตามจำนวนในพื้นที่จุดเสี่ยงหรือไม่มีกล้องวงจรปิดในคดีดังกล่าวข้างต้น” ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี กล่าว

อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาในหลายคดี มักจะพบว่าผู้กระทำผิดเป็นบุคคลที่เคยกระทำความผิดมาก่อน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. พล.ต.อ.สุรเชษฐ หักพาล รอง ผบ.ตร.(สส.) ได้สั่งการให้ทุกสถานีตำรวจ ที่มีเรือนจำในเขตพื้นที่ ประสานทางเรือนจำจัดเก็บลายนิ้วมือแฝง และ DNA ก่อนที่ผู้ต้องหาจะพ้นโทษออกมา และให้มีการลงพื้นที่ไปตรวจเยี่ยมบุคคลพ้นโทษในเขตพื้นที่อย่างต่อเนื่องเพื่อตรวจสอบที่บุคคลที่กระทำผิดซ้ำ

หากมีการกระทำผิดในพื้นที่ ได้สั่งการให้ฝ่ายสืบสวนทุกโรงพักจัดตั้งชุดไล่ล่าทำงานร่วมกับสายตรวจ เร่งปราบปรามออกลาดตระเวนช่วงกลางคืน ตรวจสอบรถต้องสงสัยไม่ติดแผ่นป้ายมาทำประวัติที่โรงพัก รวมถึงตรวจสอบการกระผิดเกี่ยวกับยาเสพติดและอาวุธปืน เพื่อดูแลความสงบเรียบร้อยบริเวณพื้นที่ทั้งจังหวัดต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน