อุบัติเหตุ รถเก๋งขับชนช้างป่า คนเจ็บนำส่งรพ. เร่งติดตามช่วยคชสาร ให้ยาแก้อักเสบ

นครราชสีมา เกิดอุบัติเหตุ รถยนต์ชนช้าง ล้มทับเก๋งยุบ คนขับรับบาดเจ็บนำส่งโรงพยาบาล ส่วนช้างร้องบาดเจ็บเช่นกัน ก่อนหนีเตลิดเข้าป่า เจ้าหน้าที่เร่งติดตามดูอาการ พร้อมให้ยาแก้อักเสบ

23 พ.ย. 65 – จากกรณี นายกวิน แก้วกอง อายุ 49 ปี ชาว จ.นครปฐม ขับรถเก๋ง ขึ้นมาเที่ยวอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ผ่านประตูด่านทางขึ้นเนินหอม จ.นครนายก มุ่งหน้าที่ทำการอุทยานฯ เขาใหญ่

ก่อนเกิดอุบัติเหตุชนช้างป่า ที่กำลังเดินข้ามถนนอย่างจัง จนทำให้ช้างป่า ล้มทับหลังคารถเก๋งยุบ พังเสียหาย จนทำให้ นายกวิน ผู้ขับขี่นั่งมาคนเดียวได้รับบาดเจ็บ บริเวณถนนหมายเลข 3077 กิโลเมตร 36 ผาตะแบก ระหว่างประตูด่านเนินหอม-ที่ทำการอุทยานฯ จ.ปราจีนบุรี

ส่งผลให้ ช้างป่าบาดเจ็บร้องหนีเข้าป่า ส่วนผู้บาดเจ็บ นำส่งโรงพยาบาลปากช่อง-นครราชสีมา เพื่อรักษาตัว

ความคืบหน้าล่าสุด นายชัยยา ห้วยหงษ์ทอง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ กล่าวว่า ตั้งแต่ช่วงเช้า นายสุทธิพร สินค้า เจ้าหน้าที่อุทยานฯเขาใหญ่ ฝ่ายดูแลสัตว์ป่าและอำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยว พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ 7 นาย ออกติดตามหาช้างป่า ที่ได้รับบาดเจ็บถูกรถชน

คาดว่าน่าจะเป็นช้างรุ่นๆ คงได้รับบาดเจ็บบริเวณขาหลังด้านขวา เพื่อดูอาการและให้ยาแก้อักเสบ แต่ยังไม่พบตัว ประกอบกับในพื้นที่มีช้างป่าตัวอื่นๆ ซึ่งก็มีอันตรายต่อเจ้าหน้าที่ แต่คงต้องติดตามดูอาการช้างต่อไป ส่วนรถเก๋งที่ได้รับความเสียหายเจ้าหน้าที่ได้นำมาเก็บไว้ที่ฝ่ายป้องกัน อุทยานฯ เขาใหญ่

นายชัยยา กล่าวอีกว่า ขอความร่วมมือนักท่องเที่ยวต้องใช้ความระมัดระวังในการขับขี่ยานพาหนะบนพื้นที่เขตอุทยานฯ เนื่องจากเป็นพื้นที่หากินของสัตว์ป่าตามธรรมชาติ ตลอดเส้นทางเป็นดงช้างผ่านและสัตว์ป่าอื่นๆ เดินข้ามถนน

หากไม่จำเป็นตั้งแต่ช่วงตะวันตกดิน อย่าขับขี่รถออกไปตามถนนเพราะอันตรายรอบด้าน ไม่ใช่ในเมือง เพราะท่านมาในป่าแหล่งอาศัยของสัตว์ป่า เช่น ช้างป่า กระทิง ที่ออกมาหากินในยามค่ำคืนที่ไม่มีแสงสว่าง จึงขอตักเตือนนักท่องเที่ยว ขับขี่รถทุกชนิดให้ปฏิบัติตามระเบียบอุทยานฯ ห้ามขับรถเร็วในพื้นที่อุทยานฯ ท่านเองก็เสี่ยงอันตรายชนกับสัตว์ป่าบาดเจ็บ

ส่วนสาเหตุในการเกิดเหตุ จะสอบสวนผู้ขับขี่อีกครั้ง แจ้งว่า บริเวณถนนเส้นทางที่ทำการ-เหวนรก มีช้างป่าออกมาหากินชุกชุม ประกอบกับมืดไม่มีแสงสว่าง คาดว่าเป็นช้างป่า ที่ออกหากินเป็นโขลง ซึ่งจะมีป้ายเตือนเป็นระยะตลอดเส้นทาง ถ้าไม่ปฏิบัติตามท่านอาจจะมีความผิดระเบียบและผิดตามพ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติได้