จากกรณีที่นายจูเซปเป้ เดอ สเตฟานี่ อายุ 62 ปี สัญชาติอิตาลี ถูกฆ่าและนำศพมานั่งเผายางที่บริเวณอ่างเก็บน้ำ บ้านบึงทับจั่น หมู่ที่ 3 ต.แหลมรัง อ.บึงนางราง จ.พิจิตร เมื่อวันที่ 19 ม.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นที่สนใจของประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างมาก ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัวนางรุจิรา เอี่ยมละม้าย อายุ 37 ปี และ นายนายฮามัวรี่ ริกกัว อายุ 34 ปี สามีใหม่ชาวฝรั่งเศส พร้อมทั้งนำตัวไปทำแผนชี้จุดเกิดเหตุทั้ง 5 จุด ซึ่งนางรุจิราและนาย อาโมรี่ ริโก ชู้รักชาวฝรั่งเศส ให้การรับสารภาพหมดเปลือกถึงสาเหตุการฆ่านายจูเซปเป้ ตามที่เสนอข่าวไปแล้ว
เมื่อวันที่ 5 ก.พ. พ.ต.อ.ชัยเสถียร มณีจักร ผู้กำกับการตำรวจภูธรบึงนาราง จังหวัดพิจิตร กล่าวว่า หลังจากที่นางรุจิรา เอี่ยมละม้าย และนายฮามัวรี่ ริกกัว ชาวฝรั่งเศส ร่วมกันลงมือฆ่าหั่นศพเผานั่งยางนายจูเซปเป้ เดอ สเตฟานี่ อายุ 62 ปี ชาวอิตาลีเมื่อวันที่ 19 ม.ค. ที่บริเวณอ่างเก็บน้ำ บ้านบึงทับจั่น หมู่ที่ 3 ต.แหลมรัง อ.บึงนางราง จ.พิจิตรที่ผ่านมา จนกระทั่งตำรวจสามารถ จับผู้ต้องหาทั้ง 2 ได้ และทำแผนประกอบรับคำสารภาพ เป็นเรียบร้อยร้อย ซึ่งขณะนี้ความคืบหน้าหลังจากตำรวจบึงนาราง นำตัวนางรุจิราและนายฮามัวรี่ ผู้ต้องหา ทั้ง 2 ไปขออำนาจ ศาลพิจิตรฝากขังแล้ว ซึ่งเป็นการฝากที่ 1 เนื่องจากรอดูผลการตรวจ นิติวิทยาศาสตร์ ทั้งหมดและรอการตรวจลายนิ้วมือของผู้ต้องหาว่ามีประวัติอาชญากรหรือไม่
พ.ต.อ.ชัยเสถียร ผู้กำกับการตำรวจภูธรบึงนาราง กล่าวอีกว่า “การฝากขังนางรุจิรากับนายฮามัวรี่นั้น ฝากขังได้ไม่เกิน 7 ฝาก ซึ่งคาดว่าไม่เกิน 4 ฝาก คงจะส่งสำนวนส่งฟ้องต่อศาลพิจิตรได้ โดยตำรวจอยู่ระหว่างเร่งทำสำนวนเพื่อเตรียมสรุปสำนวนส่งฟ้องซึ่ง ผมเองเร่งรัดทางสารวัตรเวร ผู้ทำสำนวน ให้เร่งทำให้เร็วขึ้น ซึ่งตำรวจได้ตั้งข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและปิดบัง ซ่อนเร้น ย้าย หรือทำลายศพ หรือส่วนของศพ เพื่อปิดบังการตายหรือเหตุแห่งการตายฯ”
พ.ต.อ.ชัยเสถียร กล่าวอีกว่า ในส่วนนายฮามัวรี่ผู้ต้องหาชาวฝรั่งเศสนั้น ได้แจ้งไปยังสถานทูตฝรั่งเศสแล้วแต่ก็ไม่มีการติดต่อมาแต่อย่างใด ในด้านของการช่วยเหลือผู้ต้องหา ในส่วนของนายจูเชปเป้ ผู้ตายชาวอิตตาลี นั้นทางสถานทูตอิตาลี ติดต่อมาโดยตลอด เนื่องจากจะให้นายลูก้าลูกชายของผู้ตายมารับเงินเยียวยา โดยขณะนี้นายลูก้านำศพนายจูเซฟเป้กลับไปยังประเทศอิตาลีแล้ว
