หน่วยงานกรมศิลปากร ลงพื้นที่ตรวจสอบเจดีย์ หลังดราม่า จุดพลุใส่เจดีย์โบราณ เตือนไม่เหมาะสม เตรียมแนะนำวัดว่าควรจะจัดทำพิธีบูชาอย่างไร

จากกรณีประเด็นดราม่า การจุดพลุไฟใส่เจดีย์เหลี่ยม ภายในวัดกู่คำ ตั้งอยู่ติดกับถนนเกาะกลาง ตำบลท่าวังตาล อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ มีการไลฟ์สดจากพระรูปหนึ่ง ในคืนวันที่ 9 พ.ย. 65 เป็นคืนส่งท้ายจัดกิจกรรมส่งท้ายเทศกาลยี่เป็ง

ล่าสุด วันที่ 28 พ.ย 65 นายเทอดศักดิ์ เย็นจุระ ผู้อำนวยการกลุ่มอนุรักษ์โบราณสถาน สำนักศิลปากรที่ 7 เชียงใหม่ ลงพื้นที่เข้าตรวจสอบ เบื้องต้นยังพบเศษซากของลวด เศษพลุตัวองค์เจดีย์ พร้อมทั้งให้คำแนะนำต่อทางวัดให้เก็บทำความสะอาด ส่วนกรณีการจุดพลุ แล้วแตกระเบิดบริเวณปลายยอด ไม่ได้เป็นการจุดในพื้นที่วัดอยู่ด้านนอก แต่มุมกล้องแสง ออกมาเหมือนแตก ระบาดบริเวณจุดปลายยอดนั้นอยู่ด้านนอก ไม่ได้ระเบิดที่ตัวปลายยอดดังคลิป

นายเทอดศักดิ์ เผยว่า ตรวจสอบแล้วไม่พบมีความเสียหายจากการระเบิดของพลุ ส่วนความเหมาะสมหรือไม่นั้น ไม่เหมาะสมเพราะได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานไว้ ซึ่งทางวัดได้ระบุเป็นความเชื่อศรัทธาของญาติโยมที่มาจุดบูชาถวายองค์พระธาตุ เป็นความเชื่อที่ไม่เหมาะสมเช่นกัน ก็จะถวายคำแนะนำต่อทางวัด ว่าควรจะจัดทำพิธีบูชาอย่างไร นอกจากนี้จะได้นำเรียนถวายแด่คณะสงฆ์จังหวัดเชียงใหม่ ในการดูแลองค์พระธาตุพระเจีดย์ต่างๆ อย่างเหมาะสม อันไหนกระทำได้ อันไหนไม่ควรกระทำต่อไป

ด้านนายวัลลภ นามวงค์พรหม รองประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดเชียงใหม่ได้ กล่าวว่า ตนได้เห็นคลิปที่ลงในโซเชียลแล้ว สะเทือนใจชาวพุทธอย่างมาก การกระทำกับสถานที่หรือวัตถุที่เป็นศรัทธาของชาวบ้าน เลียนแบบต่างประเทศฯ ที่จุดพุลโดยเอาตึกสูง สร้างสีสัน แต่นี่เป็นสถานโบราณสำคัญของบ้านเมืองและขึ้นทะเบียนกรมศิลป์แล้ว ถือว่าไม่ควรอย่างยิ่ง อยากฝากเตือนอย่าทำอีก คิดว่าน่าจะเป็นบทเรียน

สำหรับ วัดกู่คำ หรือ วัดเจดีย์เหลี่ยม ตั้งอยู่ติดกับถนนเกาะกลาง ตำบลท่าวังตาล อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 1831 โดยพญามังราย มีจุดเด่นคือเจดีย์ทรงปราสาทจำนวน 5 ชั้น 20 องค์ มีลักษณะคล้ายคลึงกับเจดีย์กู่กุดในวัดจามเทวี และ สุวรรณเจดีย์ในวัดพระธาตุหริภุญชัยวรมหาวิหาร จังหวัดลำพูน ซึ่งเป็นรูปแบบสถาปัตยกรรมเจดีย์ในสมัยอาณาจักรหริภุญไชย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน