มือมีด ลงมือเหี้ยม แทงร่างชายวัย 55 ปี เสียชีวิตคาศาลาที่ทำการชุมชน หลังกลับจากงานเลี้ยงกินเจที่ศาลเจ้า ในพื้นที่ จ.ตรัง ตำรวจเชิญตัว 5 บุคคลต้องสงสัยสอบ

เมื่อเวลา 04.30 น. วันที่ 30 พ.ย.2565 ร.ต.อ.เอกลักษณ์ ศักดิ์ชัยนันท์ รองสารวัตร(สอบสวน) สภ.เมืองตรัง รับแจ้งเหตุชายถูกแทงเสียชีวิตภายในศาลาที่ทำการชุมชน เทศบาลตำบลโคกหล่อ ม.3 ต.โคกหล่อ อ.เมือง จ.ตรัง รับแจ้งจึงรุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.ท.เมธี ภิญโญประการ รอง ผกก.สอบสวน, กำลังชุดสืบสวน, พิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.ตรัง, แพทย์เวรโรงพยยาบาลตรัง, หน่วยกู้ภัยมูลนิธิกุศลสถานตรัง และ นายปรีชา ส่อสืบ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 3

มือมีด ลงมือเหี้ยม แทงร่างชายวัย 55 ปี เสียชีวิตคาศาลาที่ทำการชุมชน หลังกลับจากงานเลี้ยงกินเจที่ศาลเจ้า ในพื้นที่ จ.ตรัง

มือมีด ลงมือเหี้ยม แทงร่างชายวัย 55 ปี เสียชีวิตคาศาลาที่ทำการชุมชน หลังกลับจากงานเลี้ยงกินเจที่ศาลเจ้า ในพื้นที่ จ.ตรัง

ที่เกิดเหตุภายในศาลาดังกล่าว เป็นห้องโถงใหญ่เปิดโล่ง พบร่าง นายอนุษชา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 55 ปี สภาพนอนหงายหน้าบนกองเลือด นุ่งกางเกงขาสั้นสีน้ำเงิน เสื้อถูกถกขึ้นมาเหนือราวนม มีผ้าขาวม้าทับอยู่ใต้แผ่นหลัง ติดกันพบถุงแกงเกาหยุกตกอยู่ติดกับอาวุธมีดพกปลายแหลม 1 เล่ม เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน เบื้องต้นมีดดังกล่าว ยังไม่ชี้ชัดว่าเป็นของผู้ตาย หรือของผู้ก่อเหตุ ตรวจสอบสภาพศพถูกแทงด้วยอาวุธมีดปลายแหลม เข้าที่ชายโครงขวา 1 แผล และที่ต้นแขนซ้ายเหนือข้อศอกอีก 1 แผล

จากการสอบถาม นายประยงค์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 50 ปี ประธานชุมชนฯ และเป็นน้องชายของผู้ตาย กล่าวว่า เมื่อเวลาประมาณ 03.00 น. ตนมาตรวจดูสถานที่เกิดเหตุ เนื่องจากเป็นความรับผิดชอบตามปกติ ก่อนจะมาพบว่าน้องชายนอนเสียชีวิตอยู่แล้ว ซึ่งผู้ตายมีบ้านอยู่ห่างจากศาลาจุดเกิดเหตุไปประมาณ 50 เมตร ปกติผู้ตายจะมานั่งคุย นั่งดื่มสุรากับทีมงานที่ศาลาแห่งนี้เป็นประจำ ส่วนเมื่อคืนนี้น่าจะไม่ได้มีการดื่มกินกันในศาลาแห่งนี้

ด้าน นายวีระชัย อายุ 41 ปี น้องชายผู้ตาย กล่าวว่า ผู้ตายออกจากบ้านเมื่อเวลาประมาณ 12.00 น.ของวันที่ 29 พ.ย.ที่ผ่านมา จนเมื่อเวลาประมาณ 21.00 น. นายสุชาติ (ไม่ทราบนามสกุล) ซึ่งเป็นคนในหมู่บ้าน เห็นว่าผู้ตายไปร่วมงานกินเจของศาลเจ้าในชุมชนควนขนุน ห่างจากจุดเกิดเหตุไปประมาณ 800 เมตร

นายวีระชัย กล่าวต่อว่า ซึ่งในงานมีการเล่นดนตรี ผู้ตายก็เต้นสนุกครึกครื้นอยู่ภายในงาน ก่อนที่น่าจะเดินเท้ากลับมาที่ศาลาจุดเกิดเหตุ โดยถือแกงเกาหยุกจากงานมาด้วย 1 ถุง ก่อนจะมาพบเป็นศพ ปกตินิสัยผู้ตายจะไม่ก้าวร้าว แต่เป็นคนดื่มสุราทุกวัน หากเมาก็จะมีเพื่อนบ้านมาส่ง เป็นที่รู้กันของคนในชุมชน ที่ผ่านมาไม่เคยมีปัญหาหรือขัดแย้งกับใครเลย

แนวทางการสืบสวนสอบสวนเบื้องต้น ผู้ตายไม่ได้มีอาชีพเป็นหลักแหล่ง เคยมีครอบครัวแต่เลิกรากันไปเมื่อประมาณ 20 ปีที่ผ่านมา เป็นคนดื่มสุราเป็นประจำในทุกวัน และส่วนใหญ่จะดื่มกินกับเพื่อนฝูงทีมงานที่อยู่ในชุมชนเดียวกัน หากมึนเมาก็จะพูดมาก แต่ไม่เคยจะไปร้ายกับใคร ซึ่งคนชุมชนรู้จักและเข้าใจถึงบุคลิกของผู้ตายเป็นอย่างดี ซึ่งไม่เคยขัดแย้งกับใครในชุมชนมาก่อน หากมึนเมาดึก ๆ ก็มักจะไม่กลับเข้าบ้าน จะมานั่งหรือนอนภายในศาลาแห่งนี้

จากการสันนิษฐานเบื้องต้น คาดว่า ขณะที่ผู้ตายมึนเมาและไปร่วมงานภายในศาลเจ้า อาจจะมีนิสัยหรือพฤติกรรมที่ไม่พอใจใครบางกลุ่มบางคนเข้าภายในงาน จึงตามมาก่อเหตุ หรือเมื่อกลับเข้ามาถึงในศาลาหลังกับจากงานที่ศาลเจ้า อาจจะมาพบเจอใครเข้า และเกิดมีปากเสียงจนลงมือก่อเหตุดังกล่าว

เบื้องต้นชุดสืบสวน สภ.เมืองตรัง ได้เชิญตัว นายเอ (นามสมมุติ) ซึ่งเป็นชายที่อาศัยอยู่ในศาลาดังกล่าวเป็นที่หลับนอนเป็นประจำไปสอบปากคำ เนื่องจากน่าจะรู้เห็นกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งได้เชิญตัวผู้ที่มาพบศพ และบรรดาเพื่อน ๆ ของผู้ตายไปสอบปากคำรวม 4-5 ปาก พร้อมทั้งได้ประสานทางเทศบาลตำบลโคกหล่อ เพื่อขอตรวจสอบกล้องวงจรปิดในศาลา นำมาสู่การหาชนวนเหตุและติดตามจับตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน