แม่ร่ำไห้ บ้านจะโดนยึด ลูกแสบหลอกเอาไปจำนอง อ้างจะเอามาซ่อมบ้าน สุดท้ายเอาไปใช้จ่ายจนหมด ไม่ยอมผ่อน ไหว้ขอที่ดินผืนสุดท้าย

วันที่ 2 ธ.ค.65 ผู้สื่อข่าวรับการร้องทุกข์ จาก นางสุณี (สงวนนามสกุล) อายุ 65 ปี ว่าถูกลูกสะใภ้และลูกชายชักชวนให้นำโฉนดที่ดินไปจำนอง และจะนำเงินที่ได้มาซ่อมแซมบ้าน เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 12 มี.ค.63 โดยนางสุณี พร้อม นายธีรศักดิ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 40 ปี ลูกชาย และ น.ส.สุภัทวดี (สงวนนามสกุล) อายุ 32 ปี ลูกสะใภ้ ไปที่สำนักงานกรมที่ดินอำเภอพระประแดง จ.สมุทรปราการ พบกับ นายเกรียงไกร (สงวนนามสกุล) และทำการจดจำนอง ได้เงินสดมา 200,000 บาท

โดยนางสุภัทรวดี นำเงินไปเป็นจำนวนเงิน 180,000 บาท และมอบให้ตน 20,000 บาท ยอมรับว่าไม่ได้อ่านหนังสือหรือข้อความทั้งหมด โดยเซ็นชื่อตัวเองเป็นตัวหนังสือจำนวน 6 ที่ด้วยกัน หลังจากได้เงินต่างแยกย้ายโดยลูกสะใภ้และลูกชายนำเงินทั้งหมดกลับไปที่บ้านพักจังหวัดนนทบุรี

หลังจากได้เงิน นายธีรศักดิ์( ลูกชาย) โทรมาตลอดและขอเงินอยู่เป็นประจำ กระทั่งผู้เป็นแม่ได้ใช้เงินจริงเพียง 12,000 บาท หลังจากนั้นไม่นานลูกชายและลูกสะใภ้ ได้เข้ามาพักอาศัยอยู่ในบ้านหลังเดียวกันกับตน ซึ่งคาดว่าเงินจำนวน 180,000 บาททั้งหมดน่าจะหมดลงหรือ มาขอเงินจากผู้เป็นแม่เพิ่มเติม

ขณะเดียวกันได้มีหนังสือทวงถามจากสำนักงานทนายความย่านนนทบุรี ถึง นางสุณี แก่นจันทร์ ผู้จำนอง ว่าได้ทำหนังสือ กู้ยืมเงินและทำหนังสือสัญญา กับนายสมยศ ผู้รับจำนอง ซึ่งผู้จำนองได้กู้ยืมเงินจำนวน 200,000 บาท โดยให้ดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี และตกลงนำส่งดอกเบี้ยเดือนละครั้งเสมอไป ผู้รับจำนองตกลงรับจำนอง ที่ดินโฉนดเลขที่ 38803 เลขที่ดิน 326 ตำบลบางจาก อำเภอพระประแดงจังหวัดสมุทรปราการ จำนองที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง ทาวน์เฮ้าส์ 2 ชั้นเลขที่ 69/14 ตำบลบางจาก ผู้จำนองตกลงจำนอง แก่ผู้รับจำนองเพื่อเป็นการประกันหนี้ การกู้ยืมเงินซึ่งผู้จำนอง ได้กู้ยืมจากผู้จำนอง และถือสัญญาจำนองนี้ เป็นหลักฐานการกู้ยืมเงินด้วย

ตนเองจึงนำหนังสือดังกล่าวไปให้ลูกชายและลูกสะใภ้อ่านเนื่องจากไม่มีความรู้ ได้คำตอบกลับมาว่า เขาจะมายึดบ้านแล้ว ด้วยความตกใจตนเองแทบจะเป็นลมล้มพับ จากนั้นลูกสะใภ้จึงอธิบายว่า แม่ของ น.ส.สุภัทรวดี ให้เงิน 200,000 บาท เพื่อทำการไถ่ถอนโฉนดที่จำนองไว้กับนายเกรียงไกร แต่มีข้อแม้ว่าจะต้องเปลี่ยนชื่อโฉนดจากของนางสุณี มาเป็นของ น.ส.สุภัทรวดี แต่เพียงผู้เดียว

ซึ่งนางสุณี กล่าวว่าไม่สามารถทำได้เนื่องจากที่ดินผืนดังกล่าวเป็นของตนเอง และตนเองเป็นผู้ซื้อไว้เมื่อ 30 กว่าปี ก่อน นอกจากนี้ตนเองไม่มีรายได้อีกทั้งมีโรคประจำตัวที่จะต้องรักษาจึงไม่มีเงินเพียงพอที่จะหาเงิน 200,000 บาท มาไถ่ถอนที่จำนองไว้กับนายหน้า ซึ่งหลังได้เงินมาแล้วไม่มีการซ่อมแซมหรือบูรณะบ้านให้ใหม่ขึ้นแต่อย่างใด

โดย นางสุณี วิงวอน ขอความเมตตาจากผู้รับจำนองให้ไม่มายึดที่ดินผืนสุดท้าย ซึ่งอยากเก็บไว้พักอาศัย และรักษาตัวในบั้นปลายชีวิต โดยที่เซ็นชื่อในตอนจำนองที่ดินนั้นตนเองไม่มีความรู้และไม่ได้อ่านจึงยอมตกลงและไม่คาดคิดว่าจะมาเกิดเหตุการณ์แบบนี้








Advertisement

ด้าน เพื่อนบ้าน เล่าให้ฟังว่า เห็นมีรถมาจอดหน้าบ้าน และมีการถ่ายรูป จึงเดินเข้าไปถาม จากนั้น นางสุณี เดินไปร้องไห้ไปว่าบ้านกำลังจะโดนยึด ลูกเอาบ้านไปจำนองไม่ได้ส่งดอกเบี้ยเลยเป็นเวลา 2 ปีแล้ว จะทำไงดี ตนนึกสงสารแต่ไม่รู้ว่าจะช่วยอย่างไร บางทีไม่มีอะไรกินก็ยื่นให้บ้าง เขาก็เดินเก็บขยะตั้งแต่ตี 2 ตี 3แล้วจะเอาเงินที่ไหนมาไถ่บ้าน แล้วบ้านทั้งหลังก็ไม่ใช่ราคา 2 แสน มันมีมูลค่ามากกว่านั้น แต่ไม่รู้จะทำไง และก็ไม่รู้จะช่วยยังไง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน