เมื่อวันที่ 6 ก.พ. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่ามีวัดร้างแห่งหนึ่งถูกทิ้งไว้ที่บริเวณ ม.2 ต.โพประจักษ์ อ.ท่าช้าง จ.สิงห์บุรี คาดว่าอายุหลายร้อยปี จึงเดินทางไปตรวจสอบ พบวัดร้างเป็นโบราณสถานเก่าแก่อายุหลายร้อยปีตั้งอยู่ ซึ่งก่อนหน้านี้ชาวบ้านแจ้งว่าจะมีต้นไม้ใหญ่ปกคลุมและหญ้าปิดคลุมพื้นที่ไว้ จนเมื่อไม่นานมานี้ทางอบต.โพประจักษ์ พาเจ้าหน้าที่มาช่วยกันบูรณะถางหญ้าต้นไม้ใหญ่ออก จนมีสภาพที่ดีอย่างที่เห็นในปัจจุบัน ซึ่งคาดว่าเป็นโบสถ์มีผนังสูงขึ้นไม่มีหลังคา ผนังด้านขวาพังลง เป็นการก่อสร้างชนิดเสาฝากผนัง อายุน่าจะหลายร้อยปีมาแล้ว แสดงถึงความเข้มขลังของโบราณสถานที่ถูกสร้างจากความศรัทธาของเหล่าพุทธศาสนิกชนที่มีต่อพระพุทธศาสนา

นางอนงค์ บุญเลิศ อายุ 66 ปี อยู่บ้านเลขที่ 121 ม.2 ต.โพประจักษ์ อ.ท่าช้าง จ.สิงห์บุรี ซึ่งบ้านอยู่ใกล้วัดร้างนี้ เล่าว่า พ่อของตนเป็นคนที่นี่ ตนเพิ่งย้ายมาอยู่ที่นี่ประมาณ 50 กว่าปีแล้ว ตั้งแต่ที่มาอยู่ก็เห็นวัดร้างแห่งนี้เกิดขึ้นมาแล้ว ชาวบ้านเรียกกันว่า “วัดบ้านสร้าง” ซึ่งเป็นวัดร้างอยู่กลางป่ารกมีต้นโพธิ์ใหญ่ล้มทับโบสถ์อยู่ แต่ต้นไม้ได้ผุพังไปตามกาลเวลา เคยมีพระมาธุดงค์พักที่นี่ แต่อยู่ได้เพียงไม่เกิน 2 คืนก็กลับ ตนเคยถามว่าทำไมถึงรีบกลับ พระตอบว่าเจ้าที่แรงในส่วนของพระพุทธรูปนั้นตนไม่เคยเห็น แต่เพิ่งมาเห็นเหมือนสร้างใหม่ที่ตั้งอยู่ มีชาวบ้านมาจุดธูปไหว้กันบ่อย บ้างก็ขอโชคลาภ บ้างก็มาบนบานศาลกล่าว และก็เห็นมาแก้บนด้วยหัวหมูกันบ่อยๆ

นางอนงค์ กล่าวต่อว่า วัดบ้านสร้างนี้ เป็นชื่อเรียกจากชาวบ้านในพื้นที่แต่ก็ไม่ทราบประวัติที่แน่ชัดว่าสร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.ใด ยุคใด เมื่อก่อนที่ผ่านมาจะรกไปด้วยต้นไม้ใหญ่และหญ้ามากกว่านี้ แต่ต่อมาทาง นางน้ำทิพย์ โตสงัด นายก อบต.โพประจักษ์ นำเจ้าหน้าที่มาช่วยกันตัดต้นไหม้ ปรับดินให้โล่งขึ้น จนมีสภาพที่ดีขึ้นอย่างที่เห็นในปัจจุบัน เพื่อให้คนทั่วไปได้มาเยี่ยมชม และอยากให้นักโบราณคดีมาสำรวจเพื่อทราบว่าวัดร้างแห่งนี้สร้างขึ้นในสมัยใดกันแน่

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน