อาการน่าห่วง น้องธันวา ลูกช้างป่าพลัดหลง ยังไร้เรี่ยวแรง สัตวแพทย์ดูแล24ชม. พบมีปัญหาระบบทางเดินอาหาร ต้องให้ออกซิเจนทุกครั้งที่มีการหอบหายใจ
จากกรณีพบลูกช้างป่าตัวเมีย บาดเจ็บหนักในป่าลึก อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ จ.กาญจนบุรี พบลูกช้างอิดโรย มีบาดแผลและรอยขีดข่วนทั่วตัว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า ลูกช้างเกิดมามีสีชมพูแปลก จึงถูกช้างในโขลงขับไล่ ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ประสานขอความช่วยเหลือ ใช้เฮลิคอปเตอร์ มารับตัวลูกช้างไปรักษาที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงฉวาก จ.สุพรรณบุรี ด้วยอาการป่วยแทรกซ้อนหลายอย่าง รวมถึงลูกช้างไม่ได้รับนมแม่ จึงมีภาวะภูมิคุ้มกันต่ำ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
วันที่ 13 ธ.ค.2565 นายอนันต์ ศรีผุดผ่อง หัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงฉวาก และศูนย์พัฒนาจัดการสัตว์ป่าบึงฉวาก จ.สุพรรณบุรี เปิดเผยว่า สำหรับผลการตรวจเชื้อเฮอร์ปีส์ไวรัสในช้างชนิด EEHV ไม่พบเชื้อ จากห้องปฏิบัติการ คณะสัตวแพทยศาสตร์ ม.เกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน
โดยมี สพ.ญ.ลาดทองแท้ มีพันธุ์ สัตวแพทย์จากมูลนิธิพระคชบาล เข้าร่วมประเมินอาการและร่วมวางแนวทางการรักษาเพิ่มเติมกับทีมสัตวแพทย์ สรุปว่า ลูกช้างป่าธันวา มีปัญหาระบบทางเดินอาหาร ในเรื่องของการดูดซึมของนมที่ให้ การเจริญเติบโตของแบคทีเรียในระบบทางเดินอาหาร
ทีมสัตวแพทย์ จึงปรับสูตรการให้นมใหม่ โดยให้น้ำต้มข้าวเพิ่มเติมทดแทน และตัดมื้อนมให้ลดลง เพื่อลดการถ่ายเหลว ซึ่งทำให้สัตว์สูญเสียอิเล็กโทรไลต์ มีผลอย่างมากต่อร่างกาย นอกจากนี้ได้ให้สารน้ำเข้าทางหลอดเลือดดำและใต้ผิวหนัง ให้ยาฆ่าเชื้อแบบกิน ให้วิตามินแบบกิน
และให้ยาลดกรดในระบบทางเดินอาหาร เข้าทางหลอดเลือดดำ ลูกช้างป่ายังมีอาการหอบหายใจในบางครั้ง จึงให้ออกซิเจนทุกครั้งที่มีการหอบหายใจ เช็กระดับกลูโคสในกระแสเลือดทุก 3 ชั่วโมง และเจาะเก็บเลือดเพื่อส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการเพิ่มเติม โดยทีมสัตวแพทย์จะดูแลลูกช้างป่าธันวา อย่างใกล้ชิด ตลอด 24 ชม.
