วันที่ 7 ก.พ. พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบช.ภ.9/รองผอ.กอ.รมน.ภาค 4 สน.(ตร.) พร้อมด้วย พล.ต.ต.ปรีดา เปี่ยมวารี ผบก.ภ.จว.สงขลา พ.อ.คมกฤช รัตน ผบ.กกล.ทพ.จชต. พ.อ.ธนาวีร์ สุวรรณรัตน์ รองโฆษกกอ.รมน.ภาค 4 สน. พ.ต.อ.ปัญญวัฒน์ เพชรชุม ผกก.สภ.ห้วยปลิง ร่วมแถลงข่าวความคืบหน้าคดีความมั่นคง 2 คดี โดยคดีแรก เหตุคนร้ายร่วมกันฆ่าสามี-ภรรยา แล้วนำไปโยนทิ้งแม่น้ำ เพื่อแย่งชิงรถกระบะ ก่อนนำไปประกอบระเบิดข้างฐานปฏิบัติการ ร้อย.ตชด. ซึ่งถูกเจ้าหน้าที่ตรวจพบและเก็บกู้ได้ โดยเหตุเกิดที่สวนยางพารา บ้านห้วยปลิง ม.6 ต.ท่าม่วง อ.เทพา จ.สงขลา เมื่อวันที่ 28 ก.พ. 2560 ส่วนคดีที่ 2 เป็นเหตุคนร้ายร่วมกันขว้างระเบิดใส่ด่านตรวจของตำรวจหน่วยปฏิบัติการพิเศษ บ้านนาจวก ต.ท่าม่วง อ.เทพา จ.สงขลา เมื่อวันที่ 19 เม.ย. 2560 แต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ
พล.ต.ท.รณศิลป์ กล่าวว่า คนร้ายยังคงใช้กลวิธีเดิมจากที่ปรากฎหลายคดีคือปล้นฆ่าและนำรถไปประกอบระเบิดทันทีเพื่อไม่ให้เจ้าหน้าที่ตามได้ทัน ส่วนคดีที่2 คนร้ายได้วางแผนปูพรหมก่อเหตุพร้อมกันหลายพื้นที่ ในหลายจังหวัด โดยเหตุที่ อ.สะบ้าย้อยจ.สงขลา นั้น คนร้ายเกิดพลาดทำระเบิดใส่ตัวเองเสียชีวิตทันที 2 ศพ ซึ่งทั้ง2คดี พบว่าคนร้ายทั้ง2คนคือนายอีซาม มอซู ที่ถูกจับกุมพร้อมอาวุธปืน เอ็ม16 ขณะหลบมาซ่อนตัวอยู่ที่บ้านภรรยา ในพื้นที่ อ.ควนโดน จ. สตูล ส่วนนายสะอุดี สะเดมัน นั้นมีหมายจับในคดีระเบิด 3 จุด ในพื้นที่ อ.สะเดา จ.สงขลา ซึ่งถูกจับกุมได้ในพื้นที่อ.เบตง จ.ยะลา เมื่อนที่ 21 ม.ค. ที่ผ่านมา โดยคนร้ายทั้ง2 ราย ให้การรับสารภาพว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุลอบวางระเบิด และให้การซัดทอดไปยังหัวหน้ากลุ่มชื่อนายบุคอรีย์ นำโชค ซึ่งเป็นหัวหน้ากลุ่มในระดับสั่งการ ซึ่งมีหมายจับ ป.วิอาญาจากศาลนาทวีและเป็นผู้ร่วมก่อเหตุรวม 11 หมายจับ โดยขณะนี้คนร้ายทั้งคู่ถูกควบคุมตัวที่หน่วยข่าวกรองทางทหารภาค4ส่วนหน้าแล้ว
พล.ต.ท.รณศิลป์ กล่าวอีกว่า สำหรับคดีเผารถทัวร์ที่อ.เบตง จ.ยะลา ทางพนักงานสอบสวนได้จับผู้ต้องหาแล้ว 13 ราย รวมทั้งออกหมายจับอีก 15 ราย ซึ่งทั้งหมดได้พิสูจน์ทราบแล้วจำนวน 28 ราย ส่วนคดีระเบิดที่ตลาดสดจ.ยะลา ขณะนี้สามารถพิสูจน์ทราบตัวคนร้ายได้ 8 ราย และอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อระบุตัวตนในการออกหมายจับ คาดว่าจะได้ตัวผู้ต้องหาในเร็วๆนี้ และทางกอ.รมน.ภาค 4 สน. ยืนยันว่าจะใช้วิธีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเป็นธรรม เพื่อปกป้องคุ้มครองดูแลความปลอดภัยให้กับพี่น้องประชาชนจึงขอความร่วมมือทุกภาคส่วนแจ้งเบาะแสที่เป็นประโยชน์ต่อทางราชการได้ตลอดเวลา
