นายกสมาคมนักกฎหมายฯ ข้องใจ ทส. เพิกเฉย ‘ชัยวัฒน์’ โดนตั้งข้อหา ฆ่าบิลลี่ แต่ยังรับราชการได้ ชี้ ปลัด อาจเข้าข่ายละเลยไม่ปฏิบัติหน้าที่

วันที่ 26 ธ.ค.65 นางณัฐาศิริ เบิร์กแมน นายกสมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน กล่าวถึงกรณี ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพิกเฉยไม่สั่งพักราชการ นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร เป็นจำเลยในศาล คดีฆ่าบิลลี่ ว่า พนักงานอัยการยื่นฟ้องนายชัยวัฒน์ พร้อมพวกอีก 3 คน ในข้อหาร่วมกันฆ่า นายพอละจี รักจงเจริญ หรือ บิลลี่ โดยไตร่ตรองไว้ก่อน ตั้งแต่วันที่ 15 ส.ค.65 ปัจจุบันผ่านมากว่า 4 เดือนแล้ว ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ยังเพิกเฉย ไม่สั่งพักราชการนายชัยวัฒน์ ทั้งที่เป็นผู้ต้องหาในคดีอาญาร้ายแรงฆ่าคนตาย

นางณัฐาศิริ กล่าวต่อว่า ตาม พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2551 มาตรา 101 บัญญัติว่า “ข้าราชการพลเรือนสามัญผู้ใดมีกรณีถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรงจนถูกตั้งกรรมการสอบสวน หรือถูกฟ้องคดีอาญา หรือต้องหาว่ากระทำความผิดอาญา เว้นแต่เป็นความผิดที่ได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ ผู้บังคับบัญชาซึ่งมีอำนาจสั่งบรรจุตามมาตรา 57 มีอำนาจสั่งพักราชการหรือสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนเพื่อรอฟังผลการสอบสวนหรือพิจารณาหรือผลแห่งคดีได้” ที่ผ่านมาข้าราชการที่เป็นผู้ต้องหาในคดีอาญาร้ายแรง จะถูกพักราชการหรือให้ออกจากราชการทุกคน

นางณัฐาศิริ กล่าวว่า การที่ปลัดกระทรวงทรัพย์ให้นายชัยวัฒน์ จำเลยในคดีอาญายังคงปฏิบัติหน้าที่ราชการต่อไป อาจถือว่า เป็นการละเลยไม่ปฏิบัติหน้าที่และใช้อำนาจ ตามที่กฎหมายกำหนด ซี่งเชื่อว่าจะมีผลทำให้เกิดความความเสื่อมเสียต่อทางราชการ ก่อผลกระทบต่อสังคมในวงกว้างสร้างความรู้สึกไม่ปลอดภัยต่อครอบครัวผู้เสียหายและพยาน และอาจส่งผลต่อการดำเนินคดีได้ โดยมีความกังวลใจว่า จำเลยอาจอาศัยตำแหน่งหน้าที่เข้าไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักหลักฐานในคดีและเป็นอุปสรรคต่อผู้เสียหายในการเข้าถึงความยุติธรรมได้

ทั้งนี้สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 17 เม.ย.2557 นายพอละจี รักจงเจริญ หรือ บิลลี่ นักปกป้องสิทธิมนุษยชนชาวกะเหรี่ยงแห่งบ้านบางกลอย-ใจแผ่นดิน อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี หลานชาย นายโคอิ มีมิ หรือปู่คออี้ ผู้นำทางจิตวิญญาณและนักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชนของชาวกะเหรี่ยงกลุ่มดังกล่าว ได้ถูกจับกุมโดย นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าอุทยาน และ เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี หลังจากนั้นไม่มีผู้ใดทราบชะตากรรรมของนายพอละจีอีกเลย

ต่อมากรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอและพนักงานอัยการ ร่วมกันสอบสวนคดี จนได้พยานหลักฐานที่เชื่อได้ว่า เจ้าหน้าที่ที่จับกุม นายพอละจี รักจงเจริญ ไปนั้นได้ร่วมกันกระทำผิดต่อ นายพอละจี

ดังนั้น เมื่อวันที่ 15 ส.ค.65 พนักงานอัยการจึงยื่นฟ้อง นายชัยวัฒน์ ลิ้พร้อมกับเจ้าหน้าที่หรือพนักงานอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานอีก 3 คน ได้แก่ นายบุญแทน บุษราคัม นายธนเสฏฐ์ หรือ ไพฑูรย์ แช่มเทศ และนายกฤษณพงษ์ จิตต์เทศ เป็นจำเลย ต่อศาลคดีอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ในคดีหมายเลขดำที่ อท.166/2565 ในข้อหาร่วมกันฆ่านายพอละจี รักจงเจริญหรือบิลลี่โดยไตร่ตรองไว้ก่อน และข้อหาอื่นๆรวม 6 ข้อหา

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน