เจอแล้ว 2 หนุ่มมันนิ หลังตัวหายไป 7 วัน พบเป็นศพสลดในซอกหิน แต่กู้ร่างไม่ได้ เนื่องจากแคบ และมีอากาศน้อยมาก หวั่นจะเป้นอันตรายต่อทีมค้นหา ต้องยุติภารกิจ
วันที่ 6 ม.ค.66 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า กรณีการค้นหา นายทง และ นายแว้ง 2 หนุ่มมันนิ หลังหายตัวไปจากทับเพื่อสัปดาห์ก่อนว่า เมื่อช่วงเช้าวันนี้ที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวน้ำตกไพรวัลย์ หน่วยพิทักษ์ป่าบ้านพูด ม.13 ต.คลองเฉลิม อ.กงหรา จ.พัทลุง นายสมควร ปล้องอ่อน นายอำเภอกงหรา ในฐานะประธานศูนย์บัญชาการเหตุอำเภอกงหรา พร้อมด้วย จนท.หน่วยกู้ภัยมูลนิธิพัทลุงการกุศล ฝ่ายปกครอง จนท.ป่าไม้ ร่วม 100 นาย
ได้ประชุมวางแผนเตรียมความพร้อมในการนำเจ้าหน้าที่ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 12 สงขลา พร้อมกล้องจากศูนย์ฯ เดินเท้าเพื่อไปตรวจสอบบริเวณโพรงหินที่หลายฝ่ายมั่นใจว่าจะเป็นจุดฝังร่างของ 2 ชาวมันนิที่หายตัวไป ขณะออกไปล่าสัตว์และหาของป่า บริเวณเทือกเขาบรรทัด อ.กงหรา กระทั่งทีมค้นหาไปพบกระบอกตรุด ที่ใช้ในการล่าสัตว์ พร้อมกระบอกไม้ไผ่สำหรับใส่ลูกดอก ถูกวางทิ้งไว้กลางป่า นอกจากนั้นทีมค้นหาได้กลิ่นเหม็นคล้ายซากศพออกมาจากซอกหิน
จากนั้นทีมค้นหาได้ลงพื้นที่เป็นวันที่ 2 พร้อมอุปกรณ์เพื่อส่องหาแหล่งที่มาของกลิ่น เมื่อส่องกล้องเข้าไปในซอกหิน ซึ่งเป็นลักษณะปากถ้ำทางเข้าสูง 2 เมตร กว้างประมาณ 50 ซม. ลึกและแคบลงไปถึงพื้นดินระยะทางประมาณ 30 เมตร บรรยากาศมืดสนิท ทีมค้นหาพบร่างของ 2 มันนินอนเสียชีวิต ส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้ง เจ้าหน้าที่กู้ภัยพยายามเข้าไปเพื่อนำร่างออกมา แต่พบว่าภายในซอกหินมืด อากาศไม่ถ่ายเท เกรงว่าจะขาดอากาศหายใจ ซึ่งเป็นอันตรายต่อทีมค้นหา
นายสมควร กล่าวว่า หลังจากพบจุดที่ 2 หนุ่มมันนิหายเข้าไปในซอกหิน ก็พยายามกู้ศพออกมา ทุกหน่วยงานร่วมกันประชุมเพื่อหาแนวทางในการลำเลียงซากศพ แต่ปรากฏว่าไม่สามารถนำออกมาได้ เพราะเสี่ยงเกินไป เนื่องจากซอกหินมีขนาดเล็กมาก ไม่สามารถเข้าไปได้ ประกอบกับมีอากาศน้อยมาก หลังจากประชุมทีมค้นหากันแล้ว ก็ต้องยุติการกู้ศพ เบื้องต้นสันนิษฐานว่า 2 หนุ่มมันนิขาดอากาศหายใจ จนเป็นเหตุทำให้เสียชีวิต
อย่างไรก็ตาม ชาวมันนิเมื่อตายแล้ว จะไม่มีการจัดงาน ไม่มีการสวดพระอภิธรรม ไม่มีการบอกแขกเหรื่อมาร่วมงาน ไม่มีพิธีกรรมทางศาสนา เมื่อมีการเสียชีวิตในกลุ่มมันนิหรือเงาะป่า จะขุดหลุมฝัง จากนั้นกลุ่มมันนิที่เหลือก็จะพากันย้ายถิ่น เพื่อไปหาที่ตั้งทับใหม่ต่อไป
