อดีตโยมอุปัฏฐาก นำภาพลับแฉ ครูบาชื่อดัง ในพื้นที่ จ.ขอนแก่น มีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับผู้ชาย ด้าน เจ้าตัว ทราบเรื่องแล้ว ระบุ ให้เป็นเรื่องของทนายความดำเนินการ
เมื่อเวลา 07.30 น. วันที่ 10 ม.ค.2566 โซเชียลมีเดียมีการเผยแพร่ภาพที่ระบุว่า เป็นอดีตโยมอุปัฏฐากพระเกจิชื่อดัง จ.ขอนแก่น ส่งภาพของลับผู้ชายที่ระบุว่าเป็นพระเกจิดังกล่าวส่งไปให้ผู้ชายที่คบหากันเป็นแฟน อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและสื่อมวลชนช่วยตรวจสอบว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร และเพื่อให้ความเป็นธรรมกับผู้ถูกกล่าวหาด้วย และหากเป็นจริงก็ไม่อยากให้พุทธศาสนาต้องมัวหมอง เพราะพระเกจิดังกล่าวมีลูกศิษย์ลูกหาอยู่ทั่วประเทศ
ต่อมาผู้สื่อข่าวติดต่อไปยัง คุณอิคคิว ซึ่งเป็นคนนำภาพดังกล่าวส่งให้ทางแฟนเพจเฟซบุ๊ก เปิดเผยว่า ตนเคยเป็นโยมอุปัฏฐากที่วัดของครูบาชื่อดังรายหนึ่ง คอยดูแลครูบา ไปทำบุญ ไปช่วยสร้างวัด ซึ่งอยู่มานานพอสมควร จู่ ๆ มีผู้ชายคนหนึ่งทักมาหาตน โดยบอกฝากไปถึงครูบาว่าให้ปลดบล็อกให้หน่อย ตนเลยถามว่าทักมาจากไหน ซึ่งชายดังกล่าวก็ให้บอกว่าเจนทักมาพระครูบาท่านรู้ ตนก็ได้บอกครูบาให้ แต่ครูบาไม่ปลดบล็อกให้ ชายดังกล่าวจึงโมโห บอกว่าตัวเองเป็นแฟนครูบา คบกับครูบามา 2 ปีแล้ว
“ตนก็ตกใจ ถามกลับไปว่าพูดมั่วหรือเปล่า เพราะว่าตนเป็นลูกศิษย์ ก็พยายามถามว่ามั่วหรือเปล่า ชายดังกล่าวบอกว่า ตัวเองมีหลักฐานข้อความทุกอย่าง แล้วก็ส่งภาพข้อความแชทที่ครูบาพูดคุยกับชายดังกล่าวมาให้ดู เป็นภาพที่ชายดังกล่าวระบุว่า เป็นครูบาส่งภาพของลับมาให้หลายภาพในแชทข้อความ และยังบอกอีกว่า คิดถึงอยาก… ซึ่งพูดทำนองว่าต้องการมีอะไรกับครูบา โดยทั้งหมดเป็นภาพที่ชายดังกล่าวแคปหน้าจอส่งมาให้ดู เป็นภาพที่พูดคุยกันผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวของครูบา” คุณอิคคิว กล่าว
คุณอิคคิว กล่าวต่อว่า ชายดังกล่าวเล่าให้ฟังอีกว่า คบหากับครูบามา 2 ปี ได้เสียกันแล้วหลายครั้ง แต่ข้อมูลที่เก็บมามีประมาณ 4 คน ซึ่งทุกคนตนมีเฟซบุ๊กทั้งหมด แต่ตอนนี้คิดว่าชายดังกล่าวน่าจะไม่ออกมาเปิดเผยแล้ว เพราะมีการพูดคุยเจรจาว่าจะจ่ายกันเป็นเงิน 120,000 บาท เพื่อปกปิดหลักฐานให้
คุณอิคคิว กล่าวอีกว่า หลักฐานที่ชายดังกล่าวบอกนั้น เป็นคลิปวิดีโอที่มีการร่วมเพศกันระหว่างครูบาและชายดังกล่าว เพราะชายดังกล่าวนั้นต้องการเงิน เนื่องจากเป็นคนที่ครูบาเคยส่งเสียทั้งค่าเล่าเรียน ค่าอยู่ค่ากิน และเหมือนว่าครูบาไปมีแฟนใหม่ทั้งที่อยู่ในผ้าเหลืองและจะทิ้งชายคนนี้ไป โดยชายคนนี้บอกว่าเลิกกับแฟนคนเก่าเพื่อมาคบกับครูบาอย่างจริงจัง ทำไมถึงมาทิ้งกันไป ต้องการเงินเป็นค่าเสียหาย
คุณอิคคิว กล่าวว่า เรื่องที่คบหากันหรือไม่นั้น ตนในฐานะที่เป็นลูกศิษย์ ได้เข้าไปสอบถามกับครูบาแล้วว่าใช่เรื่องจริงไหม ซึ่งทางครูบาเองก็ยอมรับว่าเป็นเรื่องจริง และครูบาบอกอีกว่าขอชีวิตใหม่ได้ไหม ไม่อยากให้เปิดโปงเรื่องนี้ ซึ่งตนบอกกับครูบาว่า ถ้าไม่อยากให้เปิดโปงครูบาต้องทำให้เห็นก่อนว่า สำนึกจริง ๆ และจะไม่ทำอีก โดยให้เข้าถ้ำเพื่อปฏิบัติธรรม 1 เดือน โดยตนเป็นคนนิมนต์ไปเอง
“ช่วงที่มีข่าวว่าท่านไปธุดงค์ 1 เดือน หลังมีข่าวช้างคู่บารมีหายและมีโจรเข้ามาลักทรัพย์ในกุฏิครูบา พร้อมแนะนำว่า ถ้าพระครูบาไปเข้าถ้ำแล้ว ถ้าเปลี่ยนชีวิตใหม่ทำใหม่ตนก็ให้โอกาสได้ ตนจะไม่พูดเรื่องนี้ และยังแนะนำให้ปิดเฟซบุ๊กตัวที่ติดต่อกับผู้ชายแล้วเปิดเฟซบุ๊กใหม่ แต่ปรากฏว่าท่านครูบาไม่สามารถทำได้ ไปคุยกับผู้ชายคนอื่นอีก ตนจึงมองว่าเรื่องนี้ควรที่จะมีการออกมาเปิดเผย เพราะคนมาทำบุญกับครูบาเยอะ มีอยู่ทั่วประเทศ ที่มากราบไหว้” คุณอิคคิว กล่าว
คุณอิคคิว กล่าวด้วยว่า เคยมีญาติโยมมีจิตศรัทธานำเงินมาถวายสมทบสร้างหลังคาวิหารวัด จำนวน 1 ล้านบาท แต่ครูบาไม่ได้นำเงินจำนวนนี้มาทำหลังคาแต่อย่างใด แต่นำเงินไปเลี้ยงผู้ชายหมด และตนก็อยากจะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบเส้นทางการเงินของครูบาด้วย เพราะโอนให้ผู้ชายวันหนึ่งเยอะมาก แถมมีการโพสต์ข้อความว่า ซื้อความสุขให้ตัวเองก่อนเงินหาใหม่ ทำให้ตนยิ่งรู้สึกไม่โอเค เพราะเอาเงินจากคนทำบุญไปเลี้ยงผู้ชาย
คุณอิคคิว กล่าวยืนยันว่า เรื่องที่กล่าวหาครูบานั้นเป็นเรื่องจริงทั้งหมด ทุกอย่างมีหลักฐานเป็นข้อความแชทที่ครูบาคุยกับผู้ชายทั้งหมด ซึ่งตนได้มีโอกาสดูโทรศัพท์ของครูบาจึงได้แคปหน้าจอเป็นหลักฐานทั้งหมดเก็บไว้ด้วย แต่ในส่วนของคลิปที่ชายดังกล่าวบอกว่ามีอะไรลึกซึ้งกับครูบานั้น ตนทนดูไม่ได้จึงไม่ได้ให้ชายดังกล่าวส่งมา และไม่ได้คิดจะทำลาย แต่ให้โอกาสแล้วไม่กลับตัว ตนจึงออกมาเปิดเผยกับเพจต่าง ๆ ในตอนนี้
คุณอิคคิว กล่าวต่อว่า แต่ในภาพนั้นก็มีทั้งผ้าเหลืองในกุฏิ ขาของครูบา ซึ่งหากใครคุ้นเคยก็จะรู้ว่าใช่ทั้งหมด โดยในวันพรุ่งนี้จะนำเอกสารหลักฐานต่าง ๆ มาเปิดเผยต่อสื่อมวลชน เพื่อให้เรื่องดังกล่าวมีการตรวจสอบตามขั้นตอน ยืนยันว่าไม่เคยคิดจะทำลายล้างพุทธศาสนา หรือทำลายครูบาด้วยเหตุส่วนตัว แต่สิ่งที่เกิดขึ้นยืนยันว่าเป็นเรื่องจริง
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวพยายามติดต่อไปยังลูกศิษย์ของครูบาที่วัด เพื่อจะสอบถามให้ความเป็นธรรมกับทางครูบา โดยเบื้องต้นทางลูกศิษย์แจ้งว่า ครูบาทราบเรื่องแล้วแต่ยังไม่สะดวกให้สัมภาษณ์ โดยเรื่องดังกล่าวนั้นจะขอประชุมทางสงฆ์ก่อน และให้ทางทนายความดำเนินการในส่วนต่าง ๆ แล้ว
