ไทย เมียนมา ร่วมกันเปิดใช้สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมาแห่งที่ 1 อีกครั้ง หลังปิดมานาน 3 ปี บรรยากาศการค้า การท่องเที่ยวชายแดนแม่สอด กลับมาคึกคัก

เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 12 ม.ค. 2566 ที่สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 1 บริเวณเส้นจุดแบ่งกลางพรมแดนไทย-เมียนมา กลางแม่น้ำเมย ติดด่านพรมแดนถาวรแม่สอดแห่งที่ 1 จ.ตาก และด่านพรมแดนถาวร จ.เมียวดี ประเทศเมียนมา

นายสมชัย กิจเจริญรุ่งโรจน์ ผวจ.ตาก นาย อู โซ ติ้น ผวจ.เมียวดี ประเทศเมียนมา พร้อมข้าราชการประจำด่านพรมแดนถาวรสองประเทศ และฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันเปิดประตูด่านพรมแดนถาวรของทั้งสองประเทศ

โดยเดินทางไปพบกันที่จุดกึ่งกลางสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมาแห่งที่ 1 เพื่อทำพิธีเปิดใช้สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมาแห่งที่ 1 และเปิดการสัญจรให้รถขนส่งสินค้า และรถนักท่องเที่ยวระหว่างสองประเทศ ตลอดจนประชาชนทั้งสองฝั่งประเทศไทยและประเทศเมียนมา ได้สัญจรเดินทางข้ามด่านพรมแดนถาวรทั้งสองประเทศ ไปมาหาสู่กันผ่านสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมาแห่งที่ 1 ได้อีกครั้ง

หลังมีการปิดสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมาแห่งที่ 1 มานานกว่า 3 ปี จากสถานการณ์โควิดและจากสถานการณ์ภายในของประเทศเมียนมา จนทำให้การค้าด่านพรมแดนพรมแดนถาวรแม่สอด และด่านพรมแดนถาวรจ.เมียวดี เกิดภาวะซบเซานาน 3 ปี

จากนั้นรถขนส่งสินค้าขนาดเล็ก และนักท่องเที่ยวทั้งจากชายแดนแม่สอดและจากชายแดนจ.เมียวดี ก็เริ่มสัญจรข้ามพรมแดนระหว่างประเทศ บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก และพบเห็นรอยยิ้มของคนทั้งสองประเทศ ที่ต่างยินดีที่ได้ข้ามสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมาแห่งที่ 1 ไปมาหาสู่และทำการค้าขายได้อีกครั้ง








Advertisement

มีนักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและคนเมียนมา ตลอดรวมถึงชาวต่างชาติจำนวนมากต่างเข้าไปถ่ายภาพหน้าป้ายสุดประจิมที่ริมเมย พร้อมเข้าไปเลือกซื้อสินค้าทั้งไม้แกะสลัก อัญมณี หยกพลอย และสินค้าท้องถิ่นที่ระลึก จนทำให้ตลาดริมเมยสุดคึกคักช่วยพลิกฟื้นการค้าขายได้อีกครั้ง ท่ามกลางความดีใจของเหล่าบรรดาพ่อค้าแม่ค้าในตลาดริมเมย ที่รอเคยการเปิดด่านพรมแดนมานานถึง 3 ปีเต็ม

ด้านนายสมชัย กล่าวว่า หลังจากได้ประชุมระดับท้องถิ่นระหว่างจ.ตาก และจ.เมียวดี จนบรรลุข้อตกลงหลายข้อ จนวันนี้สามารถเปิดประตูด่านพรมแดนถาวรแม่สอดแห่งที่ 1 และด่านพรมแดนถาวรจ.เมียวดี ได้อีกครั้งในรอบ 3 ปี คาดว่าการเปิดใช้สะพานในวันนี้จะสามารถเพิ่มยอดการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ และทำให้เศรษฐกิจในพื้นที่แนวชายแดนทั้งสองประเทศกลับมาคึกคักได้อีกครั้ง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน