วัยรุ่น 2 กลุ่มเมืองระยอง ยกพวกล้างแค้น ปาระเบิดปิงปอง-ประทัดยักษ์ถล่มกันเดือด มีด-ไม้ไล่ฟันเจ็บ 3 ราย พังจักรยานยนต์เกลื่อนถนน เร่งล่าตัวทั้งหมด
เมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 1 ก.พ.2566 ร.ต.อ.ไมตรี พากุล ร้อยเวร สภ.มาบตาพุด รับแจ้งเหตุกลุ่มวัยรุ่น 2 กลุ่ม จำนวนหลายสิบคน ยกพวกตีกัน เสียงระเบิดดังสนั่น บริเวณสะพานคลองห้วยใหญ่ ถ.กรอกยายชา-ตลาดลาว ต.มาบตาพุด อ.เมือง จ.ระยอง จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมแพทย์เวร โรงพยาบาลเฉลิมพระเกียรติฯมาบตาพุด หน่วยกู้ภัยสว่างพรกุศล และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ
วัยรุ่น 2 กลุ่มเมืองระยอง ยกพวกล้างแค้น ปาระเบิดปิงปอง-ประทัดยักษ์ถล่มกันเดือด มีด-ไม้ไล่ฟันเจ็บ 3 ราย
ที่เกิดเหตุพบกลุ่มวัยรุ่นหลายสิบคนกำลังขับรถจักรยานยนต์หลบหนีไป ตรวจสอบพบรถจักรยานยนต์พังเสียหายล้มคว่ำอยู่บนถนน 3 คัน และมีผู้บาดเจ็บ 3 ราย ประกอบด้วย ผู้หญิง 1 ราย และ ผู้ชาย 2 ราย ถูกสะเก็ดระเบิดจากประทัดยักษ์ และระเบิดปิงปอง ก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาลเฉลิมพระเกียรติฯ 1 ราย ส่วนอีก 2 ราย นำตัวส่งโรงพยาบาลระยอง เพราะเป็นคนละกลุ่มกันจึงแยกโรงพยาบาลเกรงจะเกิดเหตุขึ้นในโรงพยาบาล
ซึ่งทั้ง 3 ราย เจ้าหน้าที่ตำรวจได้อายัดตัวไว้ เพื่อสอบสวนหลังหายจากบาดเจ็บ จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบประทัดยักษ์และระเบิดปิงปองที่ทำขึ้นเองตกอยู่ 3 ลูก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน รวมถึงเศษขวดที่แตกกระจายเกลื่อน ท่อนไม้ และเศษระเบิดที่แตกกระจายบนพื้นถนน
จากการสอบสวนหนึ่งในกลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุ เป็นผู้ชาย อายุ 18 ปี หลังถูกควบคุมตัว ให้การว่า ตนมากับพวก ซึ่งเป็นวัยรุ่นที่อยู่ในพื้นที่ ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.ระยอง ได้ยกพวกจำนวนกว่า 30 คน มารอล้างแค้นกลุ่มวัยรุ่นตากวนในพื้นที่ ต.มาบตาพุด พอมาเจอกันตรงจุดเกิดเหตุ จึงมีการปาระเบิดปิงปอง และประทัดยักษ์นับสิบลูก
สอบสวนทราบต่อว่า จนทำให้อีกฝ่ายที่ขับรถจักรยานยนต์มาถึงกับล้มเกลื่อนบนถนน หลังจากนั้น ก็มีการตะลุมบอนกัน ทำลายรถจักรยานยนต์จนพังเสียหาย กระทั่งมีคนตะโกนว่า “ตำรวจมา” จึงพากันขับรถจักรยานยนต์หลบหนี และบางรายก็วิ่งหนีไป
ด้าน ชาวบ้านที่อาศัยในจุดเกิดเหตุ ต่างก็สุดทนกับกลุ่มวัยรุ่น ที่มักจะมีการขับรถจักรยานยนต์กันเป็นกลุ่มกลางดึก ส่งเสียงดังลั่นถนน และมีเหตุทะเลาะวิวาทเป็นประจำ ครั้งนี้นับว่าโชคดีที่ปิดบ้านปิดร้านกันหมด ไม่งั้นอาจจะถูกลูกหลง จึงต้องการให้ตำรวจตรวจตราเพิ่มขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุขึ้นอีก
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจยึดรถจักรยานยนต์ที่ถูกทิ้งในที่เกิดเหตุ และตรวจสอบกล้องวงจรปิด หาเบาะแสผู้ก่อเหตุ เพื่อจับกุมตัวผู้เกี่ยวข้องทุกรายมาสอบสวนและดำเนินคดี และอายัดตัวผู้ได้รับบาดเจ็บ เพื่อทำการสอบสวนหาตัวผู้ก่อเหตุทั้งหมด มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
