ไม่กลัวกฎหมาย วงจรปิดจับภาพแขกอินเดีย ขับฟอร์จูนเนอร์ป้ายแดงมาจอด ก่อนไล่รุมยำเพื่อนร่วมชาติ 3 รุม 1 จะลากไปขึ้นรถ แค้นค้าขายทับถิ่น
เมื่อวันที่ 6 ก.พ.66 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องทุกข์จาก นายรันตูซา อายุ 33 ปี แขกชาวอินเดีย เข้ามาค้าขายเสื้อผ้า มุ้ง มาอยู่ในเมืองไทยนานกว่า 7-8 เดือน มาพบร้องทุกข์ พร้อมกับ นายเฉลิม พลเมืองดีชาว อ.กบินทร์บุรี
นายรันตูซา กล่าวว่า ตนถูกเพื่อนร่วมชาติชาวอินเดียด้วยกัน จำนวน 3 คน รุมทำร้ายโดยใช้มือทุบ ตบตี และหมวกกันน็อกตี เหตุเกิดวันที่ 4 ก.พ.ที่ผ่านมา ช่วง 17.30 น. ช่วงนั้นนำเสื้อผ้าไปซักรีดที่ร้านในตลาดบ้านโคกอุดม เลยไปทางไปรษณีย์ ต.หนองกี่ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี
ขณะเกิดเหตุตนกำลังไปรับเสื้อผ้าที่ไปซักรีด ช่วงจอดรถ จยย.หน้าร้าน มีกลุ่ม 3 คนเป็นชาวอินเดียด้วยกัน ที่ก่อนนี้โทรมาข่มขู่ว่าห้ามไม่ให้ตนมาค้าขายในแถบตลาดบ้านโคกอุดม อ.กบินทร์บุรี หากไม่เชื่อจะใช้ปืนยิงให้ตาย แต่ตนยังคงไปขายของตลาดบ้านโคก อ.กบินทร์บุรี อยู่ตามเดิม
นายรันตูซา กล่าวต่อว่า กลุ่มคนทั้ง 3 พากันเข้ามารุมตบตี ครั้งแรกที่บริเวณหน้าร้านซักรีด ตนหนีไปด้านในร้าน แต่ทั้ง 3 คนยังตามไปรุมทำร้ายต่อที่ในร้านอีก โดยตนไม่ได้ต่อสู้ แค่ปกป้องตัวเอง โดยกลุ่มที่รุมทำร้าย ยังพยายามที่จะลากตนให้ไปขึ้นรถยนต์ที่จอดอยู่หน้าร้าน แต่ขณะนั้นมีผู้ชายเจ้าของที่เห็นเหตุการณ์มาห้ามไว้
ด้าน นายเฉลิม ชาว อ.กบินทร์บุรี กล่าวว่า จากพฤติกรรมกลุ่มแขกอินเดียที่ข่มขู่ก่อนหน้า จากนั้นยังตามมาทำร้าย และพยายามฉุดดึงจะนำขึ้นรถยนต์ ใช้กำลังชกต่อย เอาหมวกกันน็อกตี เกรงว่าผู้เสียหายจะไม่ได้รับความปลอดภัยในชีวิตหรือทรัพย์สิน จึงนำผู้เสียหายไปตรวจร่างกายที่ถูกทำร้ายที่ รพ.กบินทร์บุรี
จากนั้นมาแจ้งความลงบันทึกประจำวันที่ สภ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ในข้อกล่าวหา ถูกรุมทำร้ายร่างกาย-กักขังหน่วงเหนี่ยว ขอให้เจ้าหน้าที่ดำเนินคดีกับกลุ่มชาวอินเดียดังกล่าวนี้ ที่ไม่เกรงกลัวกฎหมายต่อไปไว้แล้ว และยังขอร้องทุกข์ต่อสื่อมวลชนท้องถิ่นดังกล่าวถึงพฤติการณ์ชาวอินเดียกลุ่มดังกล่าวนี้ด้วย
ด้านเจ้าของร้านซักรีด กล่าวว่า ช่วงเกิดเหตุนายรันตูซาอาบังแขกชาวอินเดีย ที่เป็นลูกค้าขาประจำของร้าน ที่นำผ้ามาซักรีดทุกวัน พอรถจยย.ของอาบังจอด ก็มีรถยนต์ฟอร์จูนเนอร์ ป้ายแดง มา 2 คน กับรถจยย. 1 คน ขับขี่ตามมา โดยทั้งหมดเป็นชาวต่างชาติแขกชาวอินเดียด้วยกัน
จากนั้นฝ่ายที่ตามมา เข้ามา รุมตบตี-เอาหมวกกันน็อกฟาด ตนห้ามแล้ว แต่แก๊งแขกไม่ฟัง ยังรุม 3 ต่อ 1 จนคนถูกรุมหนีเข้าไปในร้าน และถึงในร้านยังรุมต่ออีก พร้อมยึดมือถือไปไม่ให้ติดต่อใครได้ แต่ตนจะเกรงเกิดอันตรายมากกว่านี้ ถึงห้ามไม่ให้ขึ้นรถ พร้อมบอกที่นี่มีกล้องวงจรปิด จนมีรถตร.สายตรวจ สภ.ย่อยหนองกี่ ผ่านมาจึงเรียกมาระงับเหตุ
ผู้สื่อข่าวรายงานต่อไป หลังจากได้รับการร้องทุกข์ ได้รายงานให้กับทาง พล.ต.ต.วินัย นุชชา ผบภ.จว.ปราจีนบุรี รับทราบถึงเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นเบื้องต้นแล้ว โดยทาง พล.ต.ต.วินัย แจ้งว่าจะได้ตรวจสอบรายละเอียดดังกล่าวต่อไป
