เร่งช่วย เต่าหัวค้อน อายุร่วม60ปี ป่วยหนัก คลื่นซัดเข้าใกล้ชายฝั่งเกาะสมุย มีบาดแผลเป็นรูบริเวณกระดองและลำคอ เจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือนำมารักษาและหาสาเหตุอาการป่วยดังกล่าว

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 17 ก.พ. 2566 นายประจักษ์ พูลสวัสดิ์ สมาชิกสภาเทศบาลนครเกาะสมุย เปิดเผยว่าได้รับแจ้งจากชาวประมงพื้นบ้านได้พบเต่าทะเลขนาดใหญ่ลอยมาใกล้บริเวณชายหาดอ่าวบ้านท้องโตนด ม.4 ต.ตลิ่งงาม อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งเต่าทะเลตัวดังกล่าวอยู่ในสภาพอ่อนแรงไม่สามารถว่ายน้ำได้ จากนั้นจึงได้แจ้งให้นายชยพล อินทรสุภา นายอำเภอเกาะสมุย รับทราบและเดินทางมาร่วมตรวจสอบ

เมื่อมาถึงพบว่าเต่าทะเลลอยห่างจากฝั่งประมาณ 5 เมตร เจ้าหน้าที่ อส.อำเภอเกาะสมุย และนักท่องเที่ยวต่างชาติได้ช่วยกันไปนำเต่าทะเลขึ้นบนฝั่ง จากการตรวจสอบพบว่าเป็นเต่าหัวค้อน เพศเมีย อายุประมาณ 60 ปี ความยาวของกระดอง 80 เซนติเมตร และความกว้างของกระดอง 77 เซนติเมตร น้ำหนักประมาณ 50 กิโลกรัม มีสภาพป่วยหนัก อ่อนแรง ไม่สามารถหากินได้ด้วยตัวเอง อาการน่าเป็นห่วง และมีบาดแผลที่กระดอง 2รู บริเวณลำคอ 1 รู ขนาด 1 เซนติเมตร

จากนั้นนายอำเภอเกาะสมุยได้ประสานไปยังอควาเรียมเกาะสมุย เพื่อนำเต่าที่พบไปพักฟื้น เพื่อรอสัตวแพทย์จากศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนกลาง จังหวัดชุมพร เดินทางมาดูอาการป่วยของเต่าทะเลตัวดังกล่าว

นายประจักษ์ กล่าวว่า ตนได้รับแจ้งจากชาวประมงพื้นบ้านจึงเดินทางมาตรวจสอบพบว่าเต่าอยู่ในสภาพที่อ่อนแรงและอาจจะตายได้ จึงรีบประสานไปยังนายอำเภอเกาะสมุย ตนคาดว่าเต่าตัวนี้น่าจะกินถุงพลาสติกเข้าไปทำให้มีอาการป่วย ส่วนรูที่พบต้องให้รอให้ผู้เชี่ยวชาญมาพิสูจน์ว่ารูดังกล่าวเกิดจากสาเหตุอะไร

แต่สภาพโดยรวมคาดว่าได้รับบาดเจ็บมานาน จึงขอฝากถึงชาวประมงและนักท่องเที่ยวหากพบเห็นเต่าทะเลไม่ควรไปทำร้ายควรที่จะดูห่างๆ ที่สำคัญเรือต้องชลอความเร็วเพื่อไม่ให้เกิดอันตรายต่อเต่าทะเล และขอให้งดทิ้งขยะลงทะเลโดยเฉพาะถุงพลาสติก เพราะเต่าทะเลจะคิดว่าเป็นแมงกระพรุน หากกินเข้าไปอาจเป็นอันตรายทำให้ตายได้

ล่าสุดวันเดียวกัน สัตวแพทย์จากศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนกลาง จังหวัดชุมพร ได้เดินทางมาถึงเกาะสมุย มารับตัวเต่าหัวค้อนไปดูแลและทำการรักษาต่อไป

สำหรับเต่าหัวค้อน หรือเต่าล็อกเกอร์เฮด หรือ เต่าจะละเม็ด เป็นเต่าทะเลลักษณะทั่วๆ คล้ายเต่าหญ้าและเต่าตนุ ต่างกันที่เกล็ดบนส่วนหัวตอนหน้ามีจำนวน 2 คู่เท่ากับเต่าหญ้าแต่เกล็ดบนกระดองหลังแถวข้างมีจำนวน 5 แผ่นซึ่งต่างจากเต่าทะเลชนิดอื่นๆ และรูปทรงของกระดองจะเรียวเล็กลงมาทางส่วนท้ายและเป็นสันแข็งเห็นชัดเจน

กระดองมีสีน้ำตาลแดง น้ำตาลเหลือง หรือน้ำตาลส้ม ขอบชายโครงมีสันแข็ง ที่สำคัญมีจุดเด่น คือ มีหัวขนาดใหญ่โตอย่างเห็นได้ชัด จึงเป็นที่มาของชื่อเรียกเต่าหัวค้อน และมีขาซึ่งเป็นใบพายทั้งคู่หน้าและคู่หลังจะมีเล็บหนึ่งเล็บในแต่ละข้าง

กินอาหารจำพวก สัตว์น้ำมีเปลือก และหอยเป็นอาหารหลัก พบตัวได้น้อยมากบริเวณมหาสมุทรแปซิฟิกแต่พบมากที่มหาสมุทรแอตแลนติกในน่านน้ำไทยพบน้อยมาก ปัจจุบันเต่าหัวค้อนในประเทศไทยถือเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พุทธศักราช 2535 เช่นเดียวกับเต่าทะเลชนิดอื่น ๆ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน