เตือนภัย หนุ่มซื้อกินแล้วถูกผัวน้องๆ ตามตบทรัพย์ สุดช้ำกลัวที่บ้านรู้ ไม่กล้าแจ้งตร. เจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบข้อเท็จจริง ตามล่าผัวเมียแสบ
วันที่ 24 ก.พ.2566 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ เขตเทศบาลนครขอนแก่น หลังจากที่ในโซเชียล มีการโพสต์เตือนภัย นักเที่ยวกลางคืนโดยเฉพาะบรรดาชายหนุ่มที่นิยมการซื้อกิน โดยมีการระบุว่า “ระวังผู้หญิงชื่อ ออย หาเหยื่อหน้าศาล เเล้วโทรบอกผัวว่าอยู่โรงเเรมไหน แล้วตามไปตบทรัพย์ โดนมาหลายคนเเล้ว ผัวตัวเตี้ยดำคุมเเถวนั้นพกปืน ขับรถเรียกอย่าจอดนะหนุ่มๆ ฝากท่านผู้ว่าราชการด้วยครับ ใครผ่านเเถวนั้นลองสังเกตครับ เสียภาพเมืองหมด”
จากการสำรวจพบว่า บริเวณที่เกิดเหตุ อยู่แนวริมถนนตรงข้ามศาลจังหวัดขอนแก่น หากเป็นช่วงเวลากลางคืน จะค่อนข้างมืด แสงสว่างไม่เพียงพอ พื้นที่ปกคลุมไปด้วยต้นไม้ มีร้านค้าต่างๆขายในพื้นที่เป็นปกติทุกวันในช่วงเวลากลางวัน แต่จากการสอบถามชาวบ้านในพื้นที่เกี่ยวกับกรณีดังกล่าว แต่ไม่มีใครทราบว่าเรื่องจริงหรือไม่
พ.ต.อ.ปรีชา เก่งสาริกิจ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น กล่าวว่า เบื้องต้นทราบจากทางโซเชียล จึงได้ส่งชุดสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงทันที ในเบื้องต้นนั้นยังไม่ทราบว่าเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงหรือไม่ โดยอยู่ระหว่างการตรวจสอบ และประสานหาผู้เสียหาย รวมทั้งหากตรวจสอบแล้วพบว่ามีการก่อเหตุดังกล่าวขึ้นจริง ก็จะต้องถูกดำเนินคดี
ทั้งนี้ พ.ต.ท.เมธี ศรีวันนา รอง ผกก.ป.สภ.เมืองขอนแก่น นำกำลังเจ้าหน้าที่สายตรวจ ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณดังกล่าว พบว่า อยู่แนวริมถนนตรงข้ามศาลจังหวัดขอนแก่น หากเป็นช่วงเวลากลางคืน จะค่อนข้างมืด แสงสว่างไม่เพียงพอ พื้นที่ปกคลุมไปด้วยต้นไม้ อาจเป็นสถานที่ล่อแหลมต่อการเกิดอาชญากรรม จึงได้ประสานไปยังเทศบาลนครขอนแก่นทำการตัดแต่งกิ่งไม้ และประสานการไฟฟ้าให้ติดตั้งหลอดไฟส่องสว่างเพิ่มเติม เพื่อความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนชาวขอนแก่นด้วย
และในส่วนของผู้เสียหายนั้นที่ระบุว่ามีผู้เสียหายตกเป็นเหยื่อแล้วหลายราย หากได้รับความเสียหายก็อยากจะให้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนเพื่อให้ข้อมูลกับทางตำรวจเพื่อติดตามจับกุม บุคคลหรือกลุ่มบุคคลเหล่านั้น มาดำเนินคดีตามกฎหมายทันที และจะได้เร่งรวบรวมพยานหลักฐาน พร้อมตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณพื้นที่ใกล้เคียง
นอกจากนี้ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น ยังได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่สายตรวจเพิ่มความเข้มในการออกตรวจตราพื้นที่ทั้งบริเวณที่เกิดเหตุและบริเวณโดยรอบเป็นมาตรการป้องกันเหตุอาชญากรรมต่อไป อย่างไรก็ตาม กรณีนี้คาดว่าอาจมีผู้เสียหายที่ไม่กล้าแจ้งความเพราะอาจกลัวคนรู้จักหรือครอบครัวทราบ
