น้าเมียปืนดุ ควงลูกซอง ลั่นไกใส่ 3 นัด ปมมรดกที่ดิน ในพื้นที่ จ.พิจิตร เล่าอดีต หวั่นไม่ได้รับความปลอดภัย และเกิดเหตุการณ์ซ้ำรอย หลังตำรวจให้ประกันตัว
จากกรณีแฟนเพจ อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ part 6 ได้รับเรื่องราวร้องเรียน ระบุข้อความว่า “พี่ครับช่วยครอบครัวผมด้วยนะครับ เหตุการณ์วันที่ 10 มีนาคม 2566 เวลา 15.00 น. พี่ผมโดนไล่ยิงที่สวนส้มโอ จ.พิจิตร คนทำเป็นน้องชายของแม่ แย่งชิงมรดกกันครับ แต่ศาลได้ตัดสินมาแล้ว แล้วเหลือที่อีกส่วน ที่ยังแบ่งกันไม่ลงตัว คนที่ยิงเป็นน้าชาย เคยพูดว่าจะยิงหลายครั้งแล้วครับ
น้าเมียปืนดุ ควงลูกซอง ลั่นไกใส่ 3 นัด ปมมรดกที่ดิน ในพื้นที่ จ.ราชบุรี เล่าอดีต หวั่นไม่ได้รับความปลอดภัย
แต่ครั้งนี้พี่ผมเลยโดนยิง เป็นปืนลูกซองยาว พี่ผู้หญิงเข้าไปแย่งปืนจากน้าแล้วได้เอาด้ามปืนทุบหน้าอกพี่สาวผม ส่วนพี่เขยผมแอบอยู่ใต้โต๊ะแล้วอัดคลิปวิดีโอไว้ พอเค้าเห็นพี่เขย เค้าก็ไล่ยิงเลยครับ ล่าสุดผู้ต้องหาได้ประกันตัวแล้วครับวงเงินประกัน 3 แสนบาท และผู้ต้องหาได้ทำประกันอิสระภาพไว้ ผมก็ไม่เข้าใจว่าคือยังไง ตอนนี้พี่สาวผมกลัวมากครับอยากให้พี่มาช่วยครอบครัวผมด้วยนะครับ เห็นคนแถวบ้านบอกปืนที่ตำตรวจยืดไป เค้ายังมีอีกหลายกระบอกครับ”
ล่าสุดวันที่ 13 มี.ค.2566 นายบัณฑิต (ขอสงวนนามสกุล) ผู้ที่ถูกยิง ได้นำคลิปภาพเหตุการณ์ขณะถูก นายชำนาญ (ขอสงวนนามสกุล) น้าชายแท้ ๆ ของภรรยาไล่ยิงให้ผู้สื่อข่าวดู พร้อมกล่าวว่า ขณะที่ตนและครอบครัวกำลังคัดเลือกผลมะยงชิดเพื่อนำไปขาย ผู้ก่อเหตุได้ขับรถกระบะเข้ามาแล้วจอดรถนั่งมองหน้าตนอยู่ประมาณ 10 นาที ก่อนจะขับรถออกไป
นายบัณฑิต กล่าวต่อว่า กระทั่งเวลาผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมง ผู้ก่อเหตุได้ขับรถเข้ามาจอด จากนั้นเดินไปเปิดประตูฝั่งข้างคนขับ หยิบอาวุธปืนลูกซองประทับบ่าแล้วเล็งมาที่ตนที่กำลังนั่งหันหลังอยู่ และมีระยะห่างกันประมาณ 4 เมตร โดยผู้ก่อเหตุได้ลงมือลั่นไก แต่ลูกกระสุนไม่ออก ทุกคนที่กำลังนั่งคัดมะยงชิดอยู่ได้หันไปมอง ผู้ก่อเหตุจึงได้พูดขึ้นมาว่า “ล้อเล่น ๆ” แต่ผู้ก่อเหตุยังคงขยับลำกล้องอีกหลายครั้ง
นายบัณฑิต กล่าวอีกว่า ตนเห็นว่าไม่ปลอดภัยจึงวิ่งหนีไปหลบใต้โต๊ะ แล้วถ่ายคลิปเหตุการณ์ไว้เพื่อเป็นหลักฐาน ทว่าผู้ก่อเหตุก็วิ่งตามมาอย่างกระชั้นชิด และใช้ปืนยิงมาที่ตนอีกเป็นครั้งที่ 2 แต่กระสุนไม่ลั่น ตนจึงรีบวิ่งไปซ่อนตัวที่สวนผลไม้ข้างบ้าน จนลื่นหกล้มได้รับบาดเจ็บ ผู้ก่อเหตุรีบตามมาจะลั่นไกเป็นครั้งที่ 3 ระหว่างนั้นน้องชายของตนได้ใช้ตะกร้าผลไม้กระแทกใส่จนเสียหลัก ทำให้วิถีกระสุนพุ่งขึ้นฟ้าไม่ถูกตน
Advertisement
นายบัณฑิต กล่าวด้วยว่า และขณะที่ผู้ก่อเหตุกำลังจะเดินไปที่รถ เพื่อบรรจุกระสุนปืนลูกซองเพิ่ม ภรรยาของตนได้เข้าไปห้าม จึงถูกต่อยไปที่ท้อง และใช้พานท้ายปืนกระแทกเข้าที่ลำตัวและหน้าอกได้รับบาดเจ็บ ก่อนที่ภรรยาของผู้ก่อเหตุได้เข้ามาห้ามปรามแล้วพาตัวหลบหนีไป
นายบัณฑิต กล่าวว่า ทั้งนี้ สืบเนื่องจากปัญหาเรื่องแบ่งที่ดินมรดกของ นางหลา ซึ่งเป็นยายแท้ ๆ ของภรรยาตน โดยยายหลามีลูกทั้งหมด 4 คน ซึ่งแม่ของภรรยาตนเป็นบุตรคนที่ 3 เสียชีวิตไปแล้ว 32 ปี และนายชำนาญ ผู้ก่อเหตุเป็นลูกคนเล็ก โดยผู้ก่อเหตุได้ไปยื่นขอเป็นผู้จัดการมรดก เมื่อญาติทุกคนทราบ จึงไปยื่นคัดค้าน
นายบัณฑิต กล่าวอีกว่า ต่อมาศาลจังหวัดพิจิตร ได้มีคำพิพากษาเมื่อปี 2564 ให้ภรรยาของตนและลุง เป็นผู้จัดการมรดกร่วมกัน และได้ทำการแบ่งที่ดินกันตามสิทธิ จำนวน 6 แปลง สุดท้ายสามารถตกลงแบ่งกันได้ จำนวน 4 แปลง อีก 2 แปลง เนื้อที่ 10 ไร่ และ 17 ไร่ ไม่สามารถตกลงกันได้ เนื่องจากผู้ก่อเหตุเกิดไม่พอใจ และได้มีการข่มขู่ตนและภรรยามาโดยตลอด กระทั่งมาก่อเหตุขึ้น
นายบัณฑิต กล่าวด้วยว่า ทั้งนี้ ตนและทุกคนในครอบครัวต่างวิตกกังวลมาก เนื่องจากศาลพิจารณาให้ผู้ก่อเหตุได้รับการประกันตัวโดยมีผู้ใหญ่บ้านเป็นผู้ค้ำประกันให้ แต่เท่าที่ทราบผู้ก่อเหตุยังมีอาวุธปืนอยู่อีก 2 กระบอก จึงเกรงว่าอาจเกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยกับคนในครอบครัว ส่วนตนก็ต้องหนีออกมา ไม่สามารถอยู่ใน จ.พิจิตร ได้ จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยตรวจสอบเรื่องอาวุธปืนเพิ่มเติม เพราะเป็นอันตรายต่อคนรอบตัวมาก
