ตร.ตามยึดทรัพย์จอมบงการขบวนการขนยาไอซ์ 560 กิโล ไหวตัวทันหลบหนีไปได้ ขอหมายจับป๋าดอยกับป๋าแดง ตามยึดทรัพย์บ้านเมียป๋าดอย 6 คน เบื้องต้น 2 วันยึดทรัพย์ได้ 60 ล้านบาท และตามยึดต่อ ส่วนบริษัทขนส่งที่รับส่งยาให้ปลายทางนั้น มีความผิดด้วย เร่งตรวจสอบว่าเกี่ยวข้องอย่างไร

จากกรณีตำรวจภาค 5 ร่วมกับ ตำรวจภาค 9 ประสานกับตามจับกุมยาไอซ์กว่า 560 กิโลกรัม และยาบ้าอีก 708,000 เม็ด ซุกซ่อนในซองชาบรรจุในกล่องระบุเป็นผลไม้แช่อิ่ม จับกุมได้ที่เชียงใหม่ มูลค่า 1.5 พันล้านบาท จับผู้ต้องหาได้ 1 คน คือนายสุชาติ เทียนชัยพนา อายุ 56 ปี ชาวกะเหรี่ยง อยู่บ้านเลขที่ 18/2 หมู่ 3 บ้านป่าแหน ต.แม่คือ อ.ดอยสะเก็ด เชียงใหม่ รับสารภาพขนยาเสพติดมาก่อนหน้านั้น 4 ครั้ง น้ำหนักทั้งสิ้น 2 ตันกว่า โดยใช้ระบบขนส่งและมาถูกจับได้ ครั้งที่ 5 รับจ้างขนครั้งละ 2 แสนบาท จับกุมได้ล่าสุดเมื่อวันที่ 11 ก.พ. ที่จ.เชียงใหม่ ตามข่าวที่ได้เสนอไปแล้วนั้น

ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 15 ก.พ. พล.ต.ต.ภาณุเดช บุญเรือง รอง ผบช.ภาค 5 นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษกองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 5 ร่วมกับเจ้าหน้าที่ปปส.ภาค 5 นำหมายศาลเข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 72/5 หมู่ 4 ตำบลสันผีเสื้ออำเภอเมือง จ.เชียงใหม่ ของน.วิ.ไลพร บานเย็น ซึ่งเป็นภรรยาคนที่ 4 ของนายธัญเทพ โปรติ หรือป๋าดอย อายุ 52 ปี หนึ่งในผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับ และในช่วงบ่ายของวันนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจภาค 5 บุกเข้าตรวจยึดทรัพย์สินบ้านของนายประพล หรือป๋าแดง คำนุง อีกครั้งหนึ่ง

สืบเนื่องจากมีพฤติกรรมเชื่อมโยงกับนายสุชาติ เทียนชัยพนา ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมตัวพร้อมยาไอซ์ 560 กิโลกรัม และยาบ้า 708,000 เม็ด เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะนำยาเสพติดมาส่งที่บริษัทขนส่งเอกชนรายใหญ่ที่กลางเมืองเชียงใหม่ โดยในการปฎิบัติการตรวจค้นครั้งนี้ เจ้าหน้าตรวจค้นหอพักธนกฤตเพลส เอลที่ 29/13 หมู่ 2 ต.ช้างเผือกของนางวิไลพร

จากการตรวจค้นเจ้าหน้าที่ได้อายัดบ้านพร้อมที่ดิน อาคารหอพักพร้อมที่ดิน รถยนต์ 4 คัน รวมมูลค่าทรัพย์สินกว่า 60 ล้านบาท สำหรับนายธัญเทพ โปติ ป๋าดอย และ นายป๋าแดง เจ้าหน้าที่ขออนุมัติหมายจับเพื่อเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดีเอาผิดตามกฎหมายต่อไป โดยหมายจับของบุคคลทั้ง 2 คือเลขที่หมายจับ จ104/2561 นายธัญเทพ โปติ หรือศรีดอย เลขที่หมายจับ 105/2561 นายประพล หรือป๋าแดง คำนุง ทั้ง 2 เป็นผู้บงการผู้สั่งการให้ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมนำยาเสพติดไปส่งที่ขนส่ง

ด้านพล.ต.ต.ภาณุเดช บุญเรือง รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เปิดเผยว่า จากข้อมูลของปปส.พบว่ามีความเชื่อมโยงกันชัดเจนจากการซัดทอดของผู้ต้องหาที่จับได้พร้อมของกลางไอซ์ 560 กิโลกรัม และยาบ้ากว่า 7 แสนเม็ด ซัดทอดถึงผู้บงการว่าจ้างในการแพ็ค และเตรียมส่งกับบริษัทโลจิสติกดังของภาคเหนือ ก่อนที่จะดำเนินการสืบสวนสอบสวนจนได้หลักฐานชัดเจนทั้งการโอนเงินค่าจ้าง และหลักฐานต่างๆ จนสามารถดำเนินการยึกทรัพย์ในวันนี้ ซึ่งเปิดปฏิบัติการพร้อมกับ ปปส.ทั่วประเทศ โดยเฉพาะของภาค 5 และภาค 9 ที่ทำงานร่วมกันในคดีนี้

อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าป๋าดอยคือตัวบงการใหญ่ในเครือข่ายนี้ ซึ่งมีภรรยา 6 คน ทั้งที่ยังดูแลกันอยู่ และที่อ้างว่าเลิกรากันไป ก็จะตรวจสอบเครือข่ายซึ่งอาจจะยึดทรัพย์เพิ่มเติมได้อีก ทั้งทางตำรวจภาค 5 เองก็จะประสานข้อมูลเชิงลึกขยายผลตรวจสอบว่าเครือข่ายนี้ จะเป็นครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่รายใหม่ หรือมีความเชื่อมโยงกับเครือข่ายเก่าที่เคยถูกจับกุมไปแล้วหรือไม่ ซึ่งต้องขอเวลาตรวจสอบ โดยเฉพาะจะต้องมีการประสานงานติดตามตัวทั้งป๋าดอยและป๋าแดง ที่ทราบว่าตอนนี้หลบหนีอยู่ เชื่อว่ายังหลบซ่อนตัวอยู่ในประเทศยังไม่ได้ออกไปนอกประเทศ มาดำเนินคดีให้ได้ต่อไป

ส่วนสาเหตุที่ผู้บงการทั้ง 2 หลบหนีไปได้นั้น เนื่องจากผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีโทรศัพท์ติดต่อกับมาหานายสุชาติ ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมในขณะนั้น โดยโทรหาถึง 3 คน เชื่อว่าผู้บงการทั้ง 2 รู้ว่านายสุชาติ ถูกจับแน่นอน จึงได้ไหวตัวทัน และหลบหนีไปดังกล่าวและปิดมือถือด้วย ส่วนบริษัทขนส่งที่คนร้ายนำยาเสพติดไปส่งนั้น จากการตรวจสอบพบว่า ไม่ได้ระบุผู้รับปลายทางและผู้ส่ง ที่ผ่านมาทางเรากำลังดำเนินการตรวจสอบว่าบริษัทขนส่งแห่งนี้และพนักงานนั้น มีส่วนพัวพันและเกี่ยวข้องหรือไม่ หากพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องรู้เห็น ก็จะดำเนินการกันต่อไปตามกฎหมาย โทษสูงสุดถึงขั้นยกเลิกใบอนุญาติขนส่งเลยทีเดียว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน