เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 18 ก.พ. ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ที่บ้านเลขที่ 12 ม.7 บ้านหนองหลุบ ต.แดงใหญ่ อ.เมือง จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นบ้านของนางเพชรรัตน์ มหกิจ อายุ 53 ปี หลังถูกคนร้ายก่อเหตุเข้าไปโจรกรรมรถยนต์ภายในบ้านพัก โดยเจ้าของบ้านได้พาผู้สื่อข่าวเดินดูโดยรอบบริเวณบ้านซึ่งมีรั้วรอบขอบชิด และที่บริเวณประตูทางเข้าบ้านซึ่งถูกคนร้ายตัดโซ่คล้องประตูทางเข้าบ้าน โดยมีร่องรอยของการถูกตัดอย่างชัดเจน
นางเพชรรัตน์ กล่าวว่า สำหรับเหตุการณ์ที่คนร้ายเข้ามาก่อเหตุโจรกรรมรถยนต์ภายในบ้านพักนั้น เกิดขึ้นเมือวันที่ 25 ธ.ค.ที่ผ่านมา โดยได้ออกจากบ้านไปทำงานตามปกติ และจอดรถเก๋ง ยี่ห้อฮอนด้า แจ๊ส สีดำ ทะเบียน กต-2520 ขอนแก่น ไว้ที่จอดรถภายในบ้าน และล็อกกุญแจประตูบ้านอย่างแน่นหนา เมื่อกลับมาถึงบ้านรถได้หายไป
“รถคันนี้ซื้อต่อมาจากน้องสาว แต่ยังไม่โอนเล่ม สมุดคู่มือและเอกสารต่างๆได้เก็บไว้ในรถ ทั้งนี้ หลังรู้ว่ารถยนต์ได้หายไปจึงได้ดูกล้องวงจรปิดของเพื่อนบ้านที่ติดตั้งอยู่ตรงข้ามกันก็พบพฤติกรรมคนร้ายเข้ามาก่อเหตุในเวลา 15.00 น.ของวันที่ 25 ธ.ค. 2560 โดยคนร้ายเป็นชายเข้ามาก่อเหตุด้วยการตัดกุญแจที่ประตูหน้าบ้าน ก่อนเข้ามาขโมยรถที่จอดอยู่ในบ้าน แล้วขับออกไปจากซอยอย่างหน้าตาเฉย ซึ่งขณะขับออกจากซอย ยังผ่านกล้องวงจรปิดของเพื่อนบ้านที่อยู่ปากซอยด้วย” นายเพชรรัตน์ กล่าว
นางเพชรรัตน์ กล่าวต่อว่า ขณะนี้ได้นำภาพจากกล้องวงจรปิดเป็นหลักฐานสำคัญเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านเป็ด เป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ยังไม่มีอะไรคืบหน้า และเมื่อวันที่ 9 ก.พ.ที่ผ่านมา น้องสาวของตนได้รับโทรศัพท์จากชายวัยรุ่น อ้างว่าอยู่ กรุงเทพฯ โทรมาหาขอดูซากรถ กต-2520 ขอนแก่น คันที่หายไป โดยระบุว่ารถคันนี้มีการโพสต์ขายทางเฟซบุ๊ก จึงตอบว่า ไม่ได้ขาย แต่รถถูกขโมยไป ชายคนดังกล่าวก็ตัดสายทิ้ง และติดต่อไม่ได้อีก
“ครอบครัวได้พยายามตามหารถคันนี้ตลอด โดยล่าสุดได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่ด่านนาโน ถ.มิตรภาพ อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น พบว่าคนร้ายได้ขับรถเก๋ง ทะเบียน กต-2520 ขอนแก่น ผ่านด่านดังกล่าว ในเวลา 10.00 น.ของวันที่ 26 ธ.ค. 2560 ซึ่งหลังจากวันรถหายเพียงวันเดียวเท่านั้น ดังนั้น ด้วยหลักฐานต่างๆที่มี อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยติดตามจับกุมคนร้ายรายนี้ให้ด้วย เพราะถือว่าทำการอุกอาจมาก ลักลอบเข้ามาขโมยรถในบ้านอย่างใจเย็น ก่อนขับรถออกไป ใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ตอนนี้ไม่หวังที่จะได้รถคืน เพราะเชื่อว่าคนร้ายน่าจะทำกันเป็นขบวนการ และขายต่อไปแล้ว” เจ้าของรถ กล่าว
