กัน จอมพลัง พา เมียจ่าทหาร ท้อง 6 เดือน เข้าร้อง ผบ.ทร. ถูกผัวทำร้าย ไล่ออกจากบ้าน ขู่ให้เซ็นใบหย่า เพราะจะเอาเมียน้อยที่ท้อง 2 เดือนเข้าบ้าน

เมื่อวันที่ 10 พ.ค. 2566 นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง พา นาง เอ(นามสมมุติ) อายุ 30 ปี ที่ตั้งครรภ์ 6 เดือน พร้อม ทนายโรส อังศวีร์ เดินทางมาพบ กับ น.อ.พันณรงค์ ยุทธวงศ์ ผู้อำนวยการกองประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกองทัพเรือ

เพื่อยืนหนังสือร้องเรียนนาย บี (นามสมมุติ ) อายุ 30 ปี ทหารเรือยศจ่าเอก สังกัดฐานทัพเรือสัตหีบ จ.ชลบุรี สามี ที่มีพฤติกรรม คบซ้อน โดยมีการขู่บังคับไล่ภรรยาออกจากบ้าน และขู่ให้นำใบหย่ามาให้ ทั้งที่คู่รักคู่นี้ ที่จดทะเบียนสมรส ไปเมื่อวันที่ 19 ธ.ค.65 อยู่กินรู้จักกันมานานกว่า 4-5 ปี และ ทหารเรือ นายนี้ทำร้ายร่างกายทุบตี ภรรยา เป็นประจำทุกครั้งที่จับได้ว่ามีหญิงอื่น

กัน จอมพลัง ระบุว่า น้อง เอ (นามสมมุติ) ร้องขอความช่วยเหลือ ตนจึงเดินทางไปพบที่ สัตหีบ โดยเจ้าตัวมีอาการซึมเศร้า เสียใจรุนแรง เนื่องจากสามีไปมีหญิงอื่น และทำร้ายร่างกายน้อง ซึ่งสามีเอง เป็นทหารเรือที่สัตหีบ

ตอนนี้น้อง เอ (นามสมมุติ) ต้องย้ายหนี สามี ช่วงเดือน เมษายน ออกมานอนที่ทำงาน นอนโรงพยาบาล นอนบ้านคนรู้จัก เนื่องจาก สามีไล่ออกจากบ้าน และสามีบังคับให้เอาใบหย่า มาให้ และก็ห้ามเข้าบ้านที่สัตหีบ

สาเหตุที่สามีให้เหตุผลว่า กลัว นางสาว ซี (นามสมมุติ) ภรรยาน้อย ที่ตั้งครรภ์ 2 เดือน กลัวลูกของ ภรรยาน้อยจะเป็นเด็กไม่มีพ่อ และภรรยาน้อย ก็โทรศัพท์มาหา นางเอ (นามสมมุติ) บอกให้เลิกรา เลิกกับ นาย บี(นามสมมุติ) บอกว่า”เลิกเถอะเป็นตนเองทนไม่ไหวเหมือนกัน ” อีกทั้งยัง บอกว่า “เป็นเมียหลวง ก็อยู่สวยๆไป ไม่ต้องมาวิ่งทำเรื่องแบบนี้”

ตนเองอยากถาม สามีน้องเอว่าถ้าเมียท่านไปมีผัวอีกคนนึง คุณจะอยู่เฉยๆ หล่อๆไหม น้องเองโดนทำร้าย ท้อง 6เดือน ถูกไล่ออกจากบ้าน อยากให้มองความเป็นจริงบ้าง ตอนนี้น้องเสียใจเป็นอย่างมากและตนคุยกับน้องยืนยันว่าจะฟ้องชู้ และดำเนินการร้องเรียนยังกองทัพเรือ เรื่องจริยธรรมของ เจ้าหน้าที่ทหารนายนี้

อีกทั้ง ภายหลังจากได้พูดคุยกับ น.อ.พันณรงค์ ยุทธวงศ์ ผู้อำนวยการกองประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกองทัพเรือ ต้องขอขอบคุณที่ ทางกองทัพเรือ มีการรับเรื่องอย่างรวดเร็ว อยากให้หน่วยงานอื่นๆเอาเป็นเยี่ยงอย่าง ที่ ทางเจ้าหน้าที่กองทัพเรือ หลายท่าน ออกมารับรอง ยืนตากแดดตากฝน เพื่อมาพูดคุยกับ ผู้เสียหาย ผู้ร้องทุกข์ ซึ่งตอนนี้ รอให้กระบวนการดำเนินการตามลำดับขั้นตอน

ด้านนางเอ ผู้เสียหาย กล่าวทั้งน้ำตาว่า ตัวเองและสามีอยูากินกันมา 4-5 ปีแล้ว และเพิ่งจดทะเบียนสมรสเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2565 ตลอดระยะเวลาที่อยู่ด้วยกันสามีจะมีเรื่องชู้สาวตลอด เมื่อตัวเองจับได้ก็จะถูกทำร้ายร่างกายทุกครั้ง หนักสุดคือเอามีดดาบมาข่มขู่

ล่าสุดคือจับได้ประมาณเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ขณะที่ตัวเองตั้งครรภ์อยู่ พบว่าสามีมีภรรยาอีกคนอายุ 30 ปีและกำลังครรภ์ด้วย ตัวพยายามพูดคุยกับสามี แต่สามียืนยันที่จะไม่กลับมาบอกว่าต้องการรับผิดชอบภรรยาอีกและลูกในท้อง เพราะไม่อยากให้เด็กอีกคนเกิดมาเป็นลูกเมียน้อย

เมื่อถามถึงลูกของตัวเองที่อยู่ในท้อง สามีกลับบอกว่าแค่ทำหน้าที่พ่อเท่านั้น อีกทั้งมีการใช้คำพูดหยาบคาย ข่มขู่ ไม่ให้เข้าบ้านจนกว่าจะยอมหย่าให้ จนตัวเองไม่สามารถเข้าบ้านได้ ต้องไปนอนที่ทำงานตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา ระหว่างที่พักอยู่ที่ทำงาน สามีก็มีการตามไปข่มขู่ คุกคามถึง 2 ครั้ง ซึ่งตัวเองกลัวเรื่องความไม่ปลอดภัย เพราะเคยถูกทำร้ายมาก่อน

ขณะเดียวกันทางภรรยาอีกคนก็ติดต่อมาที่ตัวเอง โดยพยายามไกล่เกลี่ยให้ตัวเองเลิกกับสามี ตอนนี้ต้องการความยุติธรรมให้กับตัวเองและลูก เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นตัวเองและลูกไม่ได้เป็นฝ่ายผิด โดยตัวเองเคยไปขอความช่วยเหลือกับผู้ใหญ่หน่วยงานต้นสังกัดของสามีแล้ว แต่ไม่ได้รับความเป็นธรรม เรื่องเงียบบอกเพียงว่าให้ไปไกล่เกลี่ยกันเอง

ด้านน.อ.พันณรงค์ เปิดเผยว่า ศูนย์รับเรื่องร้องทุกข์ของกองทัพเรือ จะรับเรื่องนี้เอาไว้ หลังจากนั้นจะใช้เวลาภายใน 15 วัน ทำการตรวจสอบและส่งเรื่องไปยังต้นสังกัดของผู้ที่ถูกร้องเรียน เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป ขอย้ำว่าเรื่องนี้จะไม่สูญหายไปไหน เพราะจะมีการติดตาม และต้องมีการสรุปผล เพื่อส่งต่อไปยังผู้บัญชาการกองทัพเรือต่อไป หากมีความคืบหน้าจะแจ้งให้ทราบต่อไป

ขณะที่ ทนาย โรส อังศวีร์ ทนายความ กล่าวว่า กรณีที่เกิดขึ้น ทางผู้เสียหายสามารถฟ้องหย่า จากสามีและเรียกค่าเสียหาย จากชู้ได้ ซึ่งเบื้องต้นตอนนี้อยู่ระหว่างการฟ้องเรียกค่าทดแทนจากหญิงชู้ เป็นจำนวนเงิน 3 แสนบาท

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน