ผลผลิตเกษตรตกต่ำ ตื่นกระแสสุราก้าวหน้า ผู้ประกอบการรายใหม่ แห่เรียนทำคราฟต์คึกคัก

นครราชสีมา ผลผลิตเกษตรตกต่ำ ตื่นกระแสสุราก้าวหน้า ผู้ประกอบการ รายใหม่-รายย่อย แห่เรียนทำคราฟต์คึกคัก มั่นใจรัฐบาลชุดใหม่ทำได้สำเร็จแน่

27 พ.ค. 66 – ที่ร้านฮ็อปเบียร์ ซึ่งเป็นโรงเบียร์ขนาดเล็ก ตั้งอยู่ ถนนสืบศิริ ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา ได้มีกลุ่มผู้ประกอบการคราฟต์เบียร์จากหลายพื้นที่ทั่วประเทศ เกือบ 30 ราย เดินทางมาเรียนรู้การทำคราฟต์เบียร์ อย่างมืออาชีพ กับโรงเบียร์ ฮอบเบียร์

ภายหลังจาก พรรคร่วมรัฐบาลชุดใหม่ ที่มี พรรคก้าวไกลเป็นแกนนำ ได้มีการลงนาม MOU ผลักดัน นโยบายสุราก้าวหน้า ลดการผูกขาดจากกลุ่มทุนใหญ่ กระจายรายได้ สู่ผู้ประกอบการรายย่อยให้มีการแข่งขันอย่างเป็นธรรม ทำให้ผู้ประกอบการคราฟต์เบียร์รายย่อยทั่วประเทศ ให้ความสนใจ อยากตั้งโรงเบียร์ขนาดเล็กกันอย่างคึกคัก

โดยมี ดร.ลำไพร ศรีธรรมมา เจ้าของโรงเบียร์ ฮอบเบียร์ และ นายธนากร โพธิโต สรรพสามิตพื้นที่นครราชสีมา ให้ความรู้ทั้งเรื่องของวิชาการด้านการทำคราฟต์เบียร์อย่างถูกวิธี และเรื่องของการคำนวณภาษี อย่างถูกต้องตามกฎหมาย

นอกจากนี้ยังมีการสอนภาคปฏิบัติ การทำคราฟต์เบียร์ และการทำสุราพื้นเมืองอย่างถูกวิธี เพื่อให้ได้คุณภาพดี และมีรสชาติตรงตามความต้องการของตลาดอีกด้วย

นายมงคล ศรีธรรมมา เจ้าของโรงเบียร์ “ฮอบเบียร์” กล่าวว่า เรื่องการทำคราฟต์เบียร์ มีผู้สนใจมานานมากแล้ว ที่โรงเบียร์ของตน จัดอบรมให้ความรู้ต่อเนื่อง พบว่ามีคนในสมัครอบรมเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

กระทั่งถึงตอนนี้ พรรคร่วมรัฐบาล ได้ทำ MOU ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวกับการผลักดันนโยบายสุราก้าวหน้าอยู่ด้วย ยิ่งทำให้คนสนใจมากขึ้น จนทางร้านรับเข้าอบรมได้ไม่หมด ที่เป็นเช่นนี้ ตนเชื่อว่า หลายคนมั่นใจว่า นโยบายสุราก้าวหน้า จะทำได้สำเร็จในยุครัฐบาลชุดใหม่นี้

ด้าน นายนฤพนธ์ ทิพวงษ์ อายุ 27 ปี ชาว จังหวัดน่าน หนึ่งในผู้สนใจลงทุนทำร้านคราฟต์เบียร์ กล่าวว่า สิ่งที่ทำให้ตนเองสนใจทำคราฟต์เบียร์ เนื่องจากที่บ้านก็มีอาชีพทำนา ปลูกข้าว แต่ผลผลิตทางการเกษตรตกต่ำมาก จึงมีความคิดว่า ถ้าสามารถนำข้าวมาแปรรูปเป็นเบียร์ได้ ก็จะสามารถช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับผลผลิตทางการเกษตรได้มาก

จึงได้เริ่มศึกษาหาความรู้ในยูทูปและในอินเตอร์เน็ต ก่อนที่จะมาอบรมในครั้งนี้ ส่วนเรื่องที่หลายฝ่ายกังวงว่า นโยบายสุราก้าวหน้าจะทำให้เยาวชนเข้าถึงเหล้า เบียร์ได้ง่าย และเกิดนักดื่มรายใหม่เพิ่มขึ้นนั้น ตนมองว่า ทุกวันนี้ มีการจำหน่ายสุรา เบียร์อยู่ทั่วไป

รวมทั้งมีกฎหมายควบคุมไม่ให้จำหน่ายให้กับเยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปีด้วย จึงไม่น่าเป็นกังวลอะไร สิ่งสำคัญอยู่ที่การเพิ่มมูลค่าให้กับพืชผลทางการเกษตร และลดการผูกขาดของทุนรายใหญ่มากกว่า ถ้าทำได้จะส่งผลให้ผู้ประกอบการรายย่อย สามารถแข่งขันกับนายทุนรายใหญ่ได้อย่างเป็นธรรม

ขณะที่ นายธนากร กล่าวว่า สำหรับผู้ที่ให้ความสนใจเรื่องการทำโรงเบียร์ขนาดเล็ก ต้องศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับเรื่องของกฎหมายด้วย โดย เฉพาะ พ.ร.บ.สรรพสามิต พ.ศ.2560 และกฎหมายลูก ที่เป็นกฎกระทรวงการผลิตสุรา พ.ศ. 2565 ซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้สนใจสามารถผลิตสุรา หรือเบียร์ จำหน่ายที่บ้านหรือในร้านได้ ตามเงื่อนไขที่กำหนด เช่น ผลิตสุราได้ไม่เกิน 200 ลิตรต่อปี และชำระค่าภาษีตามปริมาณขาเดียว มีการทำบัญชี และจดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย

ส่วนเรื่อง พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า ตอนนี้ยังไม่มีการประกาศบังคับใช้ตามกฎหมาย ต้องมีอีกหลายขั้นตอน และต้องเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภาด้วย ซึ่งหากทางรัฐบาลมีการออกกฎหมายประกาศใช้อย่างเป็นทางการแล้ว ทางกรมสรรพสามิต พร้อมที่จะปฏิบัติตามกฎหมาย ที่รัฐบาลกำหนดทุกประการ