ผอ.องค์การเภสัชกรรม เผย ได้วิจัยและพัฒนายาเลิกสูบบุหรี่ชนิดใหม่ เป็นรายแรกในไทย เริ่มผลิตจำหน่าย ม.ค.2567 ช่วยลดค่ารักษา 3-4 เท่า ประหยัดนำเข้าอีกปีละ 12 ล้าน

วันที่ 30 พ.ค.2566 พญ.มิ่งขวัญ สุพรรณพงศ์ ผอ.องค์การเภสัชกรรม (อภ.) เปิดเผยว่า ข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งชาติ พ.ศ.2564 พบว่าคนไทยอายุ 15 ปีขึ้นไป สูบบุหรี่ถึง 9.9 ล้านคนและเสียชีวิตจากการสูบบุหรี่ด้วยโรคต่างๆ เช่นโรคมะเร็งปอด มะเร็งหลอดอาหาร ถุงลมโป่งพอง และโรคหัวใจเป็นต้น

อภ.

สำหรับในประเทศไทยมียา 5 รายการที่ใช้สำหรับเลิกบุหรี่ได้แก่ ยาเม็ด Varenicline, ยาเม็ด Bupropion ,นิโคตินทดแทน (Nicotine replacement therapy), ยาเม็ด nortriptyline และยาชงสมุนไพรหญ้าดอกขาว ปัจจุบันมีเพียงยา 2 รายการที่บรรจุอยู่ในบัญชียาหลักแห่งชาติ ได้แก่ ยาเม็ด nortriptyline และยาชงสมุนไพรหญ้าดอกขาว

ค้นคว้า

ดังนั้นเพื่อเป็นการช่วยผู้ที่ติดบุหรี่ให้เข้าถึงยาเลิกสูบบุหรี่ที่มีประสิทธิภาพและช่วยลดการเกิดโรค อภ. ได้วิจัยและพัฒนายาเลิกสูบบุหรี่ชนิดใหม่ คือ ยาเม็ดไซทิซิน จีพีโอ (1.5 มิลลิกรัม) เป็นรายแรกในไทย โดยร่วมมือกับคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) ศึกษาวิจัยทางคลินิกในมนุษย์ ผลการวิจัยมีความปลอดภัยและมีประสิทธิผลดี ซึ่งอยู่ระหว่างการขออนุมัติทะเบียนจาก อย.ประเภทยาควบคุมพิเศษ ที่จำหน่ายได้ในสถานพยาบาลเท่านั้น

ทำ

พญ.มิ่งขวัญ กล่าวต่อว่า หากเปลี่ยนมาใช้ยาเม็ดไซทิซิน จีพีโอ มาในการรักษาแทนการรักษาในปัจจุบันที่ใช้ยาเม็ด Varenicline จะทำให้ประหยัดงบประมาณค่ายาต่อคอร์สและลดระยะเวลาในการรักษาได้ 3-4 เท่า รวมทั้งลดการนำเข้ายาจากต่างประเทศได้ประมาณ 12 ล้านบาทต่อปี โดย อภ.จะเริ่มผลิตจำหน่ายยาใน ม.ค.2567 ทั้งนี้การมียาเลิกบุหรี่คุณภาพดีและราคาถูกผลิตได้เองโดยอภ. จึงนับเป็นก้าวย่างสำคัญของการเลิกบุหรี่ในประเทศไทยที่จะช่วยให้คนไทยมีสุขภาพที่ดีขึ้นต่อไป








Advertisement

 

 

 

 

 

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน