กรณีน.ส.จันจิรา ใจงาม หรือครูแป้ง สอนอยู่โรงเรียนแห่งหนึ่งบนเกาะสมุย หายตัวไปตั้งแต่วันที่ 22 ก.พ.ที่ผ่านมา ขณะนั่งเรือข้ามกลับมา เพื่อเข้าพิธีวิวาห์กับแฟนหนุ่มในวันที่ 25 ก.พ. พ่อแม่แจ้งความไว้ที่สภ.บ่อผุด อ.เกาะสมุย โดยคิดว่าคนที่พาลูกสาวไปน่าจะเป็นครูทอมที่สอนหนังสืออยู่ที่เดียวกัน เนื่องจากครูทอมมาแอบชอบครูแป้ง แม้ลูกสาวจะบอกไปว่ามีแฟนแล้ว พ่อแม่ออกตามหาทั่ว แต่สุดท้ายครูทอมขับรถมาปล่อยไว้หน้าบ้าน หลังรู้ว่าครูแป้งว่าที่เจ้าสาวตั้งท้องอยู่ ครอบครัวลั่นเอาผิดให้ถึงที่สุด ตามที่เสนอข่าวไปนั้น อ่านข่าว ครูทอมพา‘ว่าที่เจ้าสาว’หายตัว-โผล่แล้ว ปล่อยคืนหลังรู้ท้องวุ่นทั้งสมุยพ่อแจ้งจับ

เมื่อวันที่ 24 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ผู้สื่อข่าวได้รับการติดต่อจากครูทอม เพื่อขอชี้แจงข้อเท็จจริง พร้อมกับโต้ทางญาติครูแป้งที่กล่าวหาว่า ฉุดครูแป้งไป และทำลายข้าวของภายในบ้านพัก ใช้บัตรประชาชนคนอื่นเพื่อแสดงตัวตนในการลงเรือเฟอร์รี่ มีบุคคลอื่นร่วมฉุดครูแป้งไปด้วย และบอกว่าตนเองติดพันตามตื้อจีบครูแป้ง เรื่องทั้งหมดไม่เป็นความจริง

ครูแหม่ม เปิดเผยเรื่องราวทั้งหมดให้กับผู้สื่อข่าวว่า อันดับแรกต้องขอแก้ข่าวที่ว่าตนเองนั้นมาติดพันและอุ้มครูแป้งไป ความจริงแล้วเราอยู่ด้วยกันมาประมาณ 2 ปีแล้ว ก็อยู่ด้วยกันปกติ อยู่ด้วยกันทุกคืน จนมีวันหนึ่งครูแป้งมาบอกว่า เขาจะต้องแต่งงาน ซึ่งเขาไม่รู้เรื่อง พ่อแม่เป็นคนจัดการให้ เขาไม่อยากจะแต่งและอยากอยู่กับเรา แต่ทำอะไรไม่ได้ เราก็ถามกลับไปว่า ได้บอกเรื่องราวของเรากับพ่อแม่ไหม ครูแป้งก็ตอบว่าบอกแต่ว่าพ่อแม่ไม่ฟัง แต่ก็จะขอคุยกับพ่อแม่เรื่องของเราอีกครั้ง

ครูทอม กล่าวต่อว่า เมื่อวันจันทร์ที่ 19 ก.พ. ที่ผ่านมา ครูแป้งมาเล่าทั้งน้ำตาว่าจะต้องแต่งงานในวันที่ 25 ก.พ.นี้แล้ว เขาบอกว่าก็เพิ่งรู้วันนี้เช่นกัน ทางฝ่ายเจ้าบ่าวกับพ่อแม่เป็นคนจัดการหมด ตั้งแต่วันจันทร์มาก็คุยเรื่องนี้มาตลอด ซึ่งเราก็อยากรู้ว่าทำไมพ่อแม่ถึงบังคับทั้งที่ลูกสาวไม่อยากแต่งงาน และบอกว่าอยากอยู่กับเรา แต่ครูแป้งก็บอกว่าทำอะไรไม่ได้แล้ว พ่อกับแม่จัดงานเตรียมงานทุกอย่างเอาไว้แล้ว ถ้าจะต้องไปแต่งงานจริงๆงั้นเราก็เลิกกัน และให้ครูแป้งกลับไปอยู่ที่ห้องเขา แต่ครูแป้งก็ไม่ไป ยังอยู่ห้องเราเหมือนเดิม

ต่อมาวันพุธที่ 21 ก.พ. ตนจะข้ามฝั่งตอนเช้าแต่ครูแป้งยื้อไว้จนไม่ได้ข้ามฝั่ง จนวันพฤหัสบดีตนตั้งนาฬิกาปลุกตอนตี 3 เพื่อจะข้ามฝั่งออกนอกเกาะสมุย เพราะวันนี้ครูแป้งก็จะข้ามฝั่งไปเตรียมตัวแต่งงานเช่นกัน เลยขอข้ามฝั่งไปทำใจ เพราะยังยอมรับไม่ได้ แต่ครูแป้งยื้อตนเองไว้ไม่ยอมให้ไป จนตนเองบอกว่างั้นก็ไปด้วยกัน ครูแป้งก็ไปเปลี่ยนเสื้อผ้า ก็ขับรถไปปกติไม่มีอะไร พอลงเรือเฟอร์รี่เที่ยว 06.00 น. และก็ปิดโทรศัพท์ เพราะไม่อยากคุยกับใคร แต่อยากจะคุยกับครูแป้งให้รู้เรื่อง ไม่ได้ลักพาตัวหรือฉุดครูแป้งไป และขณะลงเรือเฟอร์รี่ตนก็แสดงใบขับขี่ยืนยันตัวตนก่อนลงเรือ ไม่ได้ใช้บัตรประชาชนคนอื่น หรือมีคนอื่นไปด้วยตามที่เป็นข่าว

“สุดท้ายครูแป้งก็มาบอกว่าที่ต้องแต่งงานเพราะว่าท้องมันเป็นเหตุผลเดียวที่ต้องแต่งงาน เขาไม่ได้ตั้งใจมันพลาดไปแล้ว เขายังรักเราอยู่ ก็เลยบอกเขาไปว่าทำไมไม่บอกให้รู้ ถ้ารู้ว่าท้องก็ไม่ต้องพามาพูดอะไรกันแล้ว ก่อนจะเปิดโรงแรมพักด้วยกัน 1 คืน” ครูทอม กล่าว

ครูทอม กล่าวอีกว่า ต่อมาวันที่ 23 ก.พ. ก็จะพาครูแป้งมาส่งที่บ้านระหว่างนั้นมาแวะไหว้พระที่วัดพระบรมธาตุไชยาวรวิหาร จ.สุราษฎร์ธานี และแวะซื้อของฝาก ตอนนั้นก็ปกติไม่รู้เรื่องอะไรที่มีผู้โพสต์ในเฟซบุ๊ก จนมาเปิดโทรศัพท์ก็มีข้อความขึ้นเต็มไปหมด ตอนนั้นก็รู้สึกตกใจ เพราะไม่คิดว่าจะมีเรื่องราวใหญ่โตขนาดนี้ และครูแป้งให้ไปส่งที่หน้าปากซอยและจะเดินเข้าบ้านไปเอง จากเรื่องราวที่เกิดขึ้นอยากให้ครูแป้งออกมาพูดเพราะคนที่รู้ดีอยู่แก่ใจก็คือครูแป้ง รู้ทั้งฝ่ายพ่อแม่ ฝ่ายเจ้าบ่าว และฝ่ายของเราเอง

เรื่องฉุดครูแป้ง ทำลายข้าวของภายในบ้านพัก ใช้บัตรประชาชนคนอื่นเพื่อแสดงตัวตนในการลงเรือเฟอร์รี่ มีบุคคลอื่นร่วมฉุดครูแป้งไปด้วย และบอกว่าตนเองติดพันตามตื้อจีบครูแป้ง เรื่องทั้งหมดไม่เป็นความจริง พร้อมกันนี้ทางครูแหม่มกล่าวขอโทษหน่วยต้นสังกัด และเพื่อนอาชีพครูทุกคนจากข่าวที่ออกไปกระทบต่ออาชีพครู และทำให้วงการครูเสื่อมเสียเกียรติ

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุราษฎร์ธานี ได้ให้ทางผู้อำนวยการโรงเรียนของครูทั้งสองคนทำการสอบสวนพร้อมชี้แจงเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน