ครูอุ้ม ครูประจำชั้นอนุบาล 2 เปิดใจเยี่ยมบ้าน น้องเตย 4 ขวบ ทำน้ำตาซึม หัวใจสุดแกร่งไม่เคยงอแง ช่วยดูแลยายตาบอดทุกอย่าง อยู่กันลำพังแค่ 2 คน

จากกรณีครูอุ้ม ครูประจำชั้นอนุบาล 2 โรงเรียนบ้านมะขามทานตะวัน ต.ตาเสา อ.ห้วยราช จ.บุรีรัมย์ โพสต์คลิปทำทั้งครูและชาวโซเชียลน้ำตาคลอ เมื่อพบน้อยเตย วัย 4 ขวบ กำลังทำงานบ้านทุกอย่าง ดูแลเลี้ยงคุณยายวัย 68 ปีตาบอดทั้งสองข้างตามลำพัง


ล่าสุดเรื่องนี้ เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 11 มิ.ย.2566 น.ส.พัชรินทร์ เอสะตี หรือครูอุ้ม เปิดเผยกับ ‘ข่าวสดออนไลน์’ ว่าก่อนหน้านี้เห็นคุณยายเดินใช้ไม้เท้าคลำทางมาส่ง ‘น้องเตย’ที่โรงเรียน สอบถามว่าเดินทางมาโรงเรียนอย่างไร ได้คำตอบว่า 2 ยายหลานพากันจูงมือเดินมาโรงเรียนโดยคุณยายตาบอดทั้ง 2 ข้าง จากบ้านมาโรงเรียนระยะทางกว่า 1 กม. เราจึงบอกคุณยายว่า ต่อจากนี้ไม่ต้องเดินมาส่งหลานแล้ว ครูจะเป็นคนไปรับหลานให้

เยี่ยมบ้าน

ต่อมาเมื่อไปเยี่ยมบ้านและไปรับน้องเตยด้วย ได้ขอเข้าไปดูข้างในบ้านเห็นสภาพความเป็นอยู่ของ ยาย-หลานแล้ว ยอมรับว่ามันจุกอยู่ในอกมากๆ เพราะเด็กตัวเล็กๆอยู่กับยายตาบอดลำพัง สภาพบ้านมีแต่รู พื้นเป็นพื้นดินเลย ไม่ได้ปูพื้นหรือกระเบื้อง ตอนนี้เป็นหน้าฝนหากพายุมาจะอยู่กันอย่างไรรู้สึกเป็นห่วง คุณยายเล่าให้ฟังว่า เวลาฝนตกก็เปียกหมดเลย

“ยายใช้เสื่อคลุมหลานเอาไว้ในอ้อมกอดไม่ให้เปียก เราได้ยินเรื่องราวเช่นนั้นก็ทนไม่ได้ เพราะน้องเตยเป็นเด็กที่น่ารักมาก เวลาอยู่ที่โรงเรียนไม่เคยไม่กินอะไรเหมือนเพื่อนๆ จะคอยมาถามคุณครูว่า “ครูกินอะไร หนูอยากกิน หนูไม่เคยกิน” เราก็จะคอยหามาให้เขากิน เวลาพักหรือขณะที่เด็กๆ คนอื่นเล่น น้องเตยจะไม่ไปเล่น แต่จะมาขอช่วยงาน หรือไม่ก็จะไปหาไม้กวาดมากวาดห้องเรียนให้

สภาพ

ปกติน้องเตยจะเป็นเด็กที่ไม่ค่อยพูดกับใครหากไม่สนิท เวลาอยู่บ้านจะเล่นกับคุณยายและหมา ไม่มีเพื่อนเล่นเหมือนคนอื่น ๆ เราก็คิดแล้วว่ายังไงก็ต้องช่วยเด็กคนนี้ให้ได้ อีกทั้งเรามีพื้นที่บนโซเชียลจึงโพสต์รูปและขอรับบริจาค จากนั้นมีเพื่อนในเฟซบุ๊กโอนบริจาค 20,000 บาท ดีใจมาก ๆรีบไปบอกกับคุณยาย และภาพที่ไปเห็นเมื่อถึงบ้านน้องตยคือ น้องกำลังนั่งล้างจานอยู่ ซึ่งไม่มีสก็อตไบท์ ใช้แค่มือล้างจานเท่านั้น

ส่วนอาการพิการทางสายตาของคุณยาย ครูอุ้ม บอกว่า คุณยายพิการทางสายตาตั้งแต่เกิด 1 ข้าง อีกข้างเริ่มมีปัญหาหลังลูกมะพร้าวร่วงใส่ศีรษะ ก่อนบอดสนิทในเวลาต่อมา ทุกวันนี้อาศัยให้หลานช่วยจับมือทำกับข้าว อย่างใส่ฟืนเราก็เป็นห่วง เพราะอยู่กันแค่ 2 คน หากไฟไหม้ขึ้นมาก็ไมรู้จะทำอย่างไร เรื่องอาหารส่วนใหญ่จะเป็นไข่เจียว หรืออะไรก็ได้เท่าที่หาได้ น้องเตยเคยบอกยายว่าถ้าไม่มี “หนูกินเกลือก็ได้” ส่วนงานบ้านอย่างอื่น ส่วนใหญ่น้องเตยก็จะทำให้โดยไม่งอแง เพราะเขารู้ว่าต้องทำ ต้องช่วยยาย

หนู

ขณะที่พ่อแม่น้องเตย คุณยายบอกว่าอยู่ระยอง แต่ไม่ได้เลี้ยงดูหรือส่งเสียอะไร ทั้งคู่อาศัยเงินที่ได้จากเบี้ยคนชรา 600 บาท เบี้ยคนพิการ 800 บาท รวมแล้ว 1,400 บาทต่อเดือน เสื้อผ้าก็มีคนมาบริจาคให้เนื่องจากสงสารและเอ็นดูน้องเพราะน้องเตยเป็นเด็กดี รู้ความ และน้องเตยเป็นเด็กที่แข็งแกร่งมาก ไม่เคยงอแง หรือรู้สึกอ่อนแอเลยแม้แต่น้อย

ทั้งที่อายุเพียง 4 ขวบเท่านั้น ยอดบริจาคตอนนี้มีผู้ใหญ่ใจดีโอนมาให้น้องและคุณยายเยอะมาก ๆ แต่เราไม่ทราบเนื่องจากว่าจะไปเช็กกับธนาคารด้วยตัวคุณยายเอง ได้บอกคุณยายไปแล้วว่ามีคนมาให้ความช่วยเหลือเยอะมาก เมื่อคุณยายทราบก็ร้องไห้ออกมาเพราะตื้นตันใจ

ยาย

ที่ผ่านมาคุณยายไม่เคยได้รับการช่วยเหลือ แม้แต่ลูกก็ไม่ได้ส่งให้ ที่ห่วงที่สุดคือหลาน อยากให้หลานมีชีวิตที่ดีกว่านี้ มีครัวไว้ทำกับข้าวเพียงแค่นั้น ไม่ได้อยากได้อะไรให้ตัวเอง รวมถึงครูได้บอกน้องเตยไปแล้วว่า ” มีพี่ๆใจดีช่วยเหลือหนูเยอะมาก หนูจะมีขนมกิน หนูจะมีที่หลบฝนแล้วนะ หนูจะมีบ้านดี ๆ เหมือนคนอื่นแล้วนะ” ซึ่งน้องเตยก็บอกว่า “หนูอยากมีบ้านสีชมพู”

ตอนนี้มีคนอยากส่งความช่วยเหลือให้น้องเยอะมาก ๆ และครูไล่ตอบไม่หมด ต่อจากนี้ก็คงต้องคุยกับคุณยายว่าจะประสานญาติคนใหนในการช่วยดูแลเงินที่ได้รับบริจาคมา หรือหากไม่มีแล้วคุณยายสะดวกใจก็ให้ทางโรงเรียนดูแลแทน

ขอ

เบื้องต้นโรงเรียนกำลังปรึกษาหารือที่จะช่วยเหลือเรื่องทุนการศึกษา รวมถึงการมารับมาส่งน้องไปโรงเรียนโดยที่คุณยายไม่ต้องเป็นห่วง ขณะที่ครูเองจะคอยดูแลน้องเตยจนกว่าจะมั่นใจว่าลูกเรามีชีวิตที่ดี เพราะเราหวังเพียงแค่อยากให้เขามีชีวิตที่ดีอยากให้เขาปลอดภัย

แค่นี้ก็ที่สุดของคำว่าเป็นครูแล้ว มันตื้นตันจนอธิบายเป็นคำพูดไม่ได้ สุดท้ายนี้อยากขอบพระคุณทุกคนมาก ๆ จริง ไม่รู้จะขอบคุณอย่างไร และขอให้บุญกุศลในครั้งนี้ย้อนกลับไปถึงทุกคนให้ยิ่งเจริญขึ้น ๆไป

บัญชี

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน