เรื่องผัวเมีย! เจ้าของรีสอร์ต ช่วยเพื่อนถูกสามีตามง้อ เข้าห้ามถูกทำร้าย-กระชากผม ฉุนขาดกลับเข้าห้องคว้าปืนยิงทะลุหลังดับ แม่โอดไม่คิดว่าถึงขั้นฆ่ากัน
เมื่อวันที่ 15 มิ.ย.66 พ.ต.ท.สมคิด ไชยพลงาม สว.(สอบสวน) สภ.รัตนวาปี จ.หนองคาย รับแจ้งมีเหตุยิงกันที่รีสอร์ตแห่งหนึ่งใน จ.หนองคาย มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส ทราบชื่อภายหลังคือ นายโสภา อายุ 37 ปี ชาว จ.หนองคาย พลเมืองดีนำส่งโรงพยาบาลรัตนวาปี ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา จึงรายงานให้ พ.ต.อ.ภูวิศ ศิริพานิช ผกก.สภ.รัตนวาปี ทราบ ก่อนรุดไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นอาคารรับจองห้องพัก พบกับผู้ก่อเหตุคือ น.ส.ปาจรีย์ อายุ 36 ปี ชาว จ.หนองคาย เจ้าของรีสอร์ต ที่รอให้การกับเจ้าหน้าที่อยู่ในที่เกิดเหตุ พร้อมมอบอาวุธปืนพกสั้น กึ่งออโตเมติก ยี่ห้อ ซิกซาวเออร์ ขนาด 9 มม. ตรวจสอบที่เกิดเหตุพบกองเลือดและเลือดกระจายทั่วบริเวณ และพบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม. 1 ปลอก
จากการสอบถามเบื้องต้นทราบว่า เมื่อกลางดึกวันที่ 13 มิ.ย.66 น.ส.บี (นามสมมติ) อายุ 25 ปี ภรรยาของผู้เสียชีวิต ทะเลาะกับผู้เสียชีวิตอย่างรุนแรง จนต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.รัตนวาปี มาระงับเหตุ หลังเจ้าหน้าที่ระงับเหตุแล้ว น.ส.บี ก็เดินทางมาพบกับ น.ส.ปาจรีย์ ผู้ก่อเหตุ เจ้าของรีสอร์ต ที่เป็นเพื่อนกันมานาน และขอพักอยู่ในรีสอร์ต
ต่อมาเมื่อนายโสภา ทราบว่าภรรยาของตนมาพักอยู่กับเพื่อนที่รีสอร์ต ก็ตามมาง้อ ตั้งแต่เวลาประมาณ 08.00 น.ของวันที่ 14 มิ.ย.66 ง้ออยู่หลายรอบ แต่ภรรยาก็ยังไม่ยอมกลับ
จนกระทั่งเวลา 17.00 น. ก็เข้ามาง้ออีก โดยมาพูดคุยกันบริเวณที่เกิดเหตุ มีน.ส.ปาจรีย์ ร่วมพูดคุยด้วย แต่น.ส.บี ไม่ยอมคืนดีและไม่ยอมกับบ้านด้วย นายโสภาก็พยายามจะฉุดกระชาก และมีปากเสียงทะเลาะกัน ทางภรรยาจึงขอให้น.ส.ปาจรีย์ช่วยเข้าห้าม แต่ก็ถูกนายโสภาตบตีและกระชากผมจนโมโห จึงเข้าไปหยิบปืนออกมายิงใส่นายโสภาทางด้านหลัง กระสุนปืนเข้าบริเวณสะบักด้านหลังได้รับบาดเจ็บสาหัส ก่อนมีพลเมืองดีนำส่งโรงพยาบาลรัตนวาปี และเสียชีวิตในเวลาต่อมา
เบื้องต้นพนักงานสอบสวน แจ้งข้อกล่าวหาฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาไว้ก่อน ส่วนร่างผู้เสียชีวิตจะส่งไปตรวจพิสูจน์ที่จังหวัดขอนแก่นต่อไป
นางจันทร์ อายุ 65 ปี แม่ของผู้เสียชีวิต เล่าให้ฟังว่า เมื่อช่วงเช้าลูกตนกับลูกสะใภ้พยายามจะพูดคุยไกล่เกลี่ยกัน หลังจากกลับจากทำบุญที่วัดก็โทรหาลูกชายว่าเป็นยังไงบ้าง เห็นลูกสะใภ้อยากให้แม่มาคุยด้วย แต่ลูกชายบอกแม่ไม่ต้องมา ตอนนี้ก็อยู่กับตำรวจนี่แล้ว
“ก็ไม่รู้ว่าทะเลาะกันเรื่องอะไร เมื่อลูกบอกไม่ต้องมา ก็เลยไม่มา ช่วงที่โทรคุยกันกับลูกชาย ลูกสะใภ้ก็ยังตะโกนผ่านโทรศัพท์บอกให้มาเลยแม่ จนมีคนโทรมาบอก โทรศัพท์ก็วางไว้ในบ้าน จึงนึ่งข้าวอยู่ด้านนอกบ้าน ไม่ได้ยินเสียงโทรศัพท์ จนกระทั่งลูกสาวขี่รถมาบอกว่าลูกชายถูกยิง ไม่คิดว่าถึงขั้นฆ่าแกงกัน” นางจันทร์ กล่าว
