ปลัดศธ. กำชับ ศธจ. แจ้งทุกโรงเรียน เข้มมาตรการความปลอดภัยใน ร.ร. ประสาน สธ. ส่งบุคลากรทางการแพทย์ด้านจิตวิทยา ดูแลพูดคุย ครอบครัว-น้องนักเรียน เร่งถอดบทเรียนป้องเกิดเหตุซ้ำ

26 มิ.ย. 66 – นายอรรถพล สังขวาสี ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) เปิดเผยว่า ตนลงพื้นที่มอบเงินเยียวยาช่วยเหลือครอบครัวนักเรียนที่เสียชีวิต และดูแลนักเรียนที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ถังดังเพลิงระเบิดขณะซ้อมแผนอพยพหนีไฟ

ทั้งนี้เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นเรื่องที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น ส่งผลให้มีนักเรียนได้รับผลกระทบกว่า 30 ราย ต้องนำส่งโรงพยาบาล 9 ราย เสียชีวิต 1 ราย ส่วนอีกกว่า 20 ราย พักรักษาดูอาการ

สำหรับการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ นายนิยม ไผ่โสภา ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.) กรุงเทพฯ เขต 1, นายเทพฤทธิ์ ยอดใส ผู้อำนวยการโรงเรียนราชวินิตมัธยม ได้ลงพื้นที่ไปดูแลที่โรงพยาบาลวชิรพยาบาลด้วยตนเอง

โดยทางสำนักงานปลัดศธ. ได้มอบเงินเยียวยา นักเรียนที่เสียชีวิต 30,000 บาท และเตรียมจะมอบให้เด็กที่ได้รับบาดเจ็บอีกรายละ 5,000 บาท ขณะเดียวกันยังมีประกันอุบัติเหตุที่ทางโรงเรียนได้ทำไว้ให้กับนักเรียนทุกคน สำหรับผู้เสียชีวิตได้รับประมาณ 200,000 บาท

นายอรรถพล กล่าวต่อว่า สำนักงานปลัดศธ. ถึงแม้ไม่ได้เกี่ยวข้องโดยตรง แต่ในฐานะที่กำกับในเชิงนโยบายความปลอดภัยของผู้เรียน วันนี้จึงลงพื้นที่มาดูแลทุกฝ่ายทั้งครอบครัวผู้เสียชีวิตและนักเรียนที่ได้รับบาดเจ็บ นอกจากนี้สมาคมครูและผู้ปกครองโรงเรียนราชวินิตมัธยม ได้รวบรวมทุกสรรพกำลังในการช่วยเหลือทุกฝ่ายอย่างเต็มที่








Advertisement

ในการนี้ ศธ.ได้ประสานไปยังกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) โดยหลังจากเปิดเรียนในวันที่ 28 มิถุนายน 2566 จะนำคุณหมอและบุคลากรทางการแพทย์ที่เกี่ยวข้องด้านจิตวิทยามาดูแล พูดคุย ทำความเข้าใจกับ ครอบครัว รวมทั้งตัวน้องนักเรียนที่ได้รับบาดเจ็บและอยู่ในเหตุการณ์ ซึ่งสร้างความสะเทือนใจและอาจส่งผลต่อสภาวะจิตใจของน้องนักเรียนที่พบเห็น

“ศธ. และครอบครัวผู้เสียชีวิต สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานดูแลผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ โดยรับไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ ยังความปลาบปลื้มแก่กระทรวงศึกษาธิการ ครอบครัวผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บ อย่างหาที่สุดมิได้

การลงพื้นที่ในวันนี้สิ่งสำคัญ คืออยากมาให้กำลังใจกับทุกฝ่าย และดูประเด็นที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำไปถอดบทเรียนมาวางมาตรการป้องกันเหตุ ครั้งนี้ถือเป็นบทเรียนที่ราคาแพงมาก ทำให้มีผู้สูญเสียที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น

เบื้องต้นได้แจ้งไปยังสถานศึกษาทั่วประเทศ ผ่านศึกษาธิการจังหวัด (ศธจ.) ให้กำชับเรื่องนี้และให้ระมัดระวังเป็นพิเศษ ว่าการซักซ้อมหรือทำกิจกรรมใดๆ ที่จะก่อให้เกิดอุบัติเหตุ หรือความไม่ปลอดภัยแก่ผู้เรียนเป็นเรื่องสำคัญเร่งด่วน ข้อแรกที่จะต้องเร่งดำเนินการป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีก

ขณะที่คุณแม่น้องนักเรียนผู้เสียชีวิต ได้สะท้อนเกี่ยวกับการจัดกิจกรรมเพิ่มพูนทักษะความรู้ในการอพยพหนีไฟและซ้อมดับไฟว่า อยากให้มีกิจกรรมแบบนี้ต่อไป แต่ขอให้เพิ่มความระมัดระวังรัดกุมมากกว่านี้ มีการตรวจสอบอุปกรณ์ทุกชิ้นก่อนการแสดงกิจกรรมสาธิตวิธีการใช้ ส่วนด้านการเยียวยามีความตื้นตันใจหลายหน่วยงานให้ความช่วยเหลือทุกด้านอย่างเต็มที่ไม่ทอดทิ้ง” นายอรรถพล กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน