แม่ยาย นักปั่น เศร้า หลานถามพ่อไปไหน หลังถูกชน ถามทำไมโยนศพทิ้ง

แม่ยาย นักปั่น ทำใจไม่ได้ หลานสาวถามพ่อไปไหน หลังถูกรถชนจักรยานขาด 2 ท่อน ร่างติดหน้ารถ 5 กิโลเมตร ถาม ทำไมไม่จอดช่วย เอาไปโยนทิ้งทำไม

วันที่ 29 มิ.ย.2566 ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศงานศพ นายสำเนาว์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 47 ปี นักปั่นจักรยาน เสียชีวิตจากการถูก นายจิราพงษ์ (ขอสงวนนามสกุล) ขับรถกระบะ ยี่ห้ออีซูซุ พุ่งชนร่างติดหน้ารถไกล 5 กิโลเมตร ก่อนนำไปทิ้งข้างทาง บริเวณริมถนนกำแพงเพชร-ท่ามะเขือ ม.1 ต.คณฑี อ.เมือง จ.กำแพงเพชร ว่าเป็นไปอย่างสุดเศร้า ครอบครัว ญาติ เพื่อนร่วมงาน เพื่อนบ้าน ต่างเดินทางมาแสดงความเสียใจ

แม่ยาย นักปั่น ทำใจไม่ได้ หลานสาวถามพ่อไปไหน หลังถูกรถชนจักรยานขาด 2 ท่อน ร่างติดหน้ารถ 5 กิโลเมตร

และร่วมกันเตรียมสถานที่บำเพ็ญกุศลศพกันตั้งแต่เช้า ต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นโดยต่างบอกว่า มันเร็วเกินไปไม่น่าจะเกิดขึ้น ที่สำคัญคนชนไม่น่าจะหลบหนีและไม่น่านำมาทิ้งกันแบบนี้ ไม่มีใครรับได้ต่อสิ่งที่เกิดขึ้น

• อ่านข่าว : มอบตัว กระบะชนจักรยานขาด ร่างนักปั่นติดหน้ารถ5กม. เปิดปมโยนศพทิ้ง
• อ่านข่าว : สลด ชนจักรยานขาด2ท่อน ร่างนักปั่นติดหน้ารถไกล5กิโล จอดโยนศพทิ้งไม่ใยดี

นางสำเนา พุ่มขจร อายุ 65 ปี บ้านเลที่ 267 ม.9 ต.เทพนคร อ.เมือง จ.กำแพงเพชร กล่าวว่า ตนเสียใจมาก เสียใจที่ไม่เคยคิดเลยว่าจะเป็นแบบนี้ เคยเตือนอย่าปั่น มันอันตราย แต่ลูกเขยชอบปั่นจักรยาน ก่อนกลับบ้านจะต้องปั่นไปส่งเพื่อนข้ามสะพานแล้วถึงจะกลับมาบ้านคนเดียว เป็นแบบนี้มาตลอด ไม่คิดว่าจะมาเจอเหตุการณ์แบบนี้จนถึงขั้นเสียชีวิตแบบนี้

นางสำเนา กล่าวต่อว่าเสียใจที่สุดเลยคือทำไมต้องเอามาทิ้งกันแบบนี้ ทำไมไม่พาไปโรงพยาบาลเพราะอาจมีโอกาสจะรอดชีวิตมาก ส่วนที่คนขับรถกระบะไปมอบตัวแล้วบอกไม่ได้ตั้งใจจะชน ไม่ตั้งใจจะนำไปทิ้ง ทำเพราะตกใจ ตนไม่เชื่อในคำพูดนั้นเด็ดขาด ทำไมไม่พาไปโรงพยาบาล เรายังจะรู้สึกดีที่ยังพาไปโรงพยาบาล

นางสำเนา พุ่มขจร อายุ 65 ปี แม่ยายของผู้เสียชีวิต

นางสำเนา กล่าวอีกว่า สงสารลูกเขย สงสารหลานมาก ๆ ซึ่งถึงตอนนี้หลานสาววัย 4 ขวบ ยังไม่รู้เลยว่าพ่อตนเองเสียชีวิต ได้แต่ถามว่าพ่อไปไหน และเข้าใจเองว่าพ่อคงไปทำงาน ไปปั่นจักรยานเดี๋ยวคงกลับ ไม่รู้จะบอกหลานอย่างไรดี โดยเฉพาะตอนที่หลานถามว่ายายร้องไห้ทำไม ตนเสียใจมาก ส่วนคนขับกระบะจะสำนึกผิดหรือไม่ จะมาขอขมาศพหรือไม่ ตนก็อยากให้มาขอขมาศพ แต่ตนไม่อยากพูดไม่อยากคิดอะไรแล้ว ลูกเขยก็ตายไปแล้วไม่อยากให้ดวงวิญญาณเป็นห่วง

ด้าน นายสำเริง จันทร์ศิลา อายุ 53 ปี เพื่อนร่วมก๊วนปั่นจักรยาน กล่าวว่า รู้สึกตกใจทำอะไรไม่ถูกปกติเลิกงานจะมาปั่นจักรยานกันทุกวัน และจะปั่นกลับเข้าบ้านกันเวลาเดิม ๆ ทุกครั้งเป็นเรื่องปกติในทุก ๆ วัน ช่วงเวลาแยกย้ายกันไม่ถึง 20 นาที ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุขึ้น รู้สึกตกใจกันมาก

นายสำเริง กล่าวต่อว่า จริง ๆ อยากบอกกับคนขับว่า หากชนแล้วไม่น่าจะหลบหนีแล้วนำมาทิ้งแบบนี้ เขาอาจจะตกใจจริง ๆ ก็ได้ แต่มันก็เกินไปหรือไม่ น่าจะลงมาดูกันซะหน่อย ส่วนที่จะบอกอะไรออกมาก็แล้วแต่ความคิดของแต่ละคน