สาวอุดรฯ เปิดใจ แต่งงานกับหนุ่มจีน แลกสินสอด 1 แสนบาท ถูกทำร้ายร่างกาย-จับขัง เหตุมีลูกให้ไม่ได้ ตร. เร่งสอบหาตัว “ดา” แม่สื่อ ส่อเข้าข่ายค้ามนุษย์
วันที่ 6 ก.ค.2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณี น.ส.นุช (นามสมมติ) อายุ 31 ปี ชาว อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี อ้างว่าถูกหลอกให้แต่งงานกับชาวจีน อยู่มาได้ 3 ปี แต่ถูกทำร้ายและขังตัวอยู่ภายในบ้าน จนทนไม่ไหว แม่ที่อยู่ทางบ้านได้ติดต่อขอความช่วยเหลือจนช่วยลูกสาวออกมาได้ และเดินทางกลับมาเมืองไทยเมื่อปลายเดือน มิ.ย.66 ทั้งนี้ การออกมาเปิดเผยเรื่องดังกล่าว อยากเตือนไว้เป็นอุทาหรณ์ให้กับสาวไทย อย่าหลงกลแต่งงานหวังได้เงินแสนแต่ต้องอยู่กับความทุกข์ทรมานแบบตนเอง
น.ส.นุช กล่าวว่า ตนรู้จักกับแม่สื่อตอนไปทำงานที่พัทยา และเขามาแนะนำว่า อยากจะแต่งงานกับชาวจีนหรือไม่ มีชาวจีนอยากได้ภรรยาไทย มีค่าสินสอดให้ 100,000 บาท ทำพิธีแต่งงานอย่างถูกต้องตามกฎหมาย แม่สื่อได้นัดให้ดูตัวผู้ชายในตัวเมืองอุดรธานี จากนั้น 3 วัน เราสองคนก็ตัดสินใจแต่งงานกันกับชาวจีนชื่อ จินเหว้ยเหลียน อายุ 32 ปี และจัดพิธีแต่งงานกันที่บ้านของตน ที่บ้านโนนหวาย วันที่ 7 ก.ย.62
น.ส.นุช กล่าวต่อว่า การจัดงานมีแม่สื่อชื่อ “ดา” และอีก 2 คนที่เป็นคนร่วม แม่สื่อเป็นคนจัดการเรื่องงานแต่งงานให้ทุกอย่าง จัดพิธีให้หมด พ่อกับแม่รอรับเงิน 100,000 บาทอย่างเดียว รออีก 1 เดือนวีซ่าออก พอวันที่ 1 ก.ย.62 ก็ได้บินไปอยู่ที่มณฑลหูเป่ย ประเทศจีน โดยบ้านหลังนั้นอยู่ด้วยกัน 4 คนมีอดีตสามี พ่อใจดี แต่แม่ผัวโหดร้ายมาก เคยทำร้ายตนเช่นกัน ตอนไปอยู่ลำบากมาก ถ้าอยู่บ้าน เขาพาทำอะไรก็ทำ ตนเคยหนีออกจากบ้านเขา 3 ครั้ง แต่ออกไม่ได้ กระทั่งครั้งที่ 4 ถึงหนีรอด
น.ส.นุช กล่าวอีกว่า หลังจากหนีกลับมาอยู่บ้าน ตอนนี้อยากจะหย่าจากเขา เพราะเราจดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายและขอให้เรื่องนี้จบกันไป เรื่องที่เกิดเหตุอยากบอกชาวโซเชียลมีเดียว่า ตนไม่ได้จะไปหลอกชาวจีน เรื่องว่าตนทำหมัน มีลูกให้เขาไม่ได้ ตนเคยมีลูก และเคยคุยกับแม่สื่อไปแล้ว แต่แม่สื่อบอกว่าจะเคลียร์และคุยกับฝ่ายชายให้เองไม่ต้องเป็นห่วง
น.ส.นุช กล่าวด้วยว่า ส่วนสาเหตุที่อยากจะแต่งงาน เพราะอยากหาเงินส่งมาให้ครอบครัวดีขึ้น หากเขาอยากมีลูกจริง ๆ ก็จะแก้หมันให้ แต่พอเขามีลูกไม่ได้ก็ทำร้ายทุบตี อดีตสามีเคยถามตนว่า ทำไมมีลูกให้เขาไม่ได้ ตนก็บอกว่า แม่สื่อไม่ให้พูดอะไร อดีตสามีก็บอกอีกว่า ทำไมไม่บอกเขาตรง ๆ จากนั้นเขาก็ทำร้ายร่างกายและติดต่อทางบ้านไม่ได้ 3 ปี
“ตอนนี้หนูไม่ต้องการอะไร ขอให้เขาหย่าขาดจากกัน อยากจะฟ้องหย่าเพื่อตัดความสัมพันธ์ให้ขาด ไม่มีอะไรผูกพันกันต่อไป และจะไม่กลับไปหาเขา หลังเกิดเรื่องแม่สื่อก็ติดต่อไม่ได้เลย รู้แค่ว่าเขาเป็นคนอุดรธานี ชื่อ “ดา” ส่วนน้องที่แนะนำให้ก็บอกว่าติดต่อแม่สื่อชื่อดาไม่ได้ และยังมีคนที่บ้านหนูและอีกคนในตัวจ.อุดรธานีไปพร้อมกัน 3 คน เขาก็กลับมาหมดแล้ว ส่วนหนูนี่จะหนักสุด โดนทำร้ายร่างกาย ขอย้ำจะบอกชาวโซเชียลว่า หนูไม่ได้หลอกเอาเงินแสนเพื่อแต่งงานแต่อย่างใด” น.ส.นุช กล่าว
ด้าน นางนี (นามสมมติ) อายุ 55 ปี แม่ของน.ส.นุช กล่าวว่า ตอนนี้สบายใจแล้วที่ลูกสาวกลับมาบ้าน ตนมีลูก 2 คน ตอนลูกสาวแต่งงานเสร็จเขาบินไปอยู่กับสามีที่ประเทศจีนติดต่อลูกไม่ได้ 3 ปี กินไม่ได้นอนไม่หลับ คิดถึงลูกมาก ห่วงเขาจะถูกสามีทำร้าย จนร้องขอความช่วยเหลือไปหลายที่ สุดท้ายวันนี้ลูกได้กลับมาบ้าน เข็ดแล้วจะไม่ให้ลูกแต่งงานกับคนจีนหรือชาวต่างชาติอีกอย่างเด็ดขาด ให้หางานทำอยู่แถวบ้านก็พอ ส่วนสาเหตุที่ให้ลูกสาวแต่งงานรับเงิน 100,000 บาท และไปอยู่เมืองจีน ก็คิดว่าเหมือนลูกไปทำงานได้เงินมาก็แค่นั้น
ล่าสุดมีรายงานว่า พล.ต.ท.ยรรยง เวชโอสถ ผบช.ภ.4 สั่งการให้ตำรวจสืบสวนภาค 4 ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องดังกล่าว ว่าเรื่องราวเป็นอย่างไร และแม่สื่อตัวการใหญ่ที่ชื่อดาและเป็นคนชวนสาวไทยแต่งงานกับหนุ่มชาวจีนเข้าข่ายค้ามนุษย์และหลอกลวงสาวไทยแต่งงานกับชาวจีนหรือไม่ เพื่อจะได้ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป