ชายชู้แฉสิ้นไส้ ลักลอบได้เสียจนตั้งท้อง ฝ่ายสาวกลัวโดนจับได้ เลยวางแผนโทรศัพท์ลวงผัวไปให้กิ๊กหนุ่มเชือดทิ้ง ตำรวจเชียงใหม่ เผยได้เบาะแสจากกล้องวงจรปิด รวมถึงโทรศัพท์มือถือผู้ตายและของเมียที่ขอไว้ขณะไปรับศพ จนพบความเชื่อมโยงกับคดีฆาตกรรม เมื่อรวบมือฆ่าได้ก็ซัดทอดซ้ำอีก ทำให้หลักฐานมัดแน่นจนขอหมายจับจากศาลแล้วตามไปรวบได้คางานศพผัว แต่เจ้าตัวยังให้การภาคเสธ
จากคดีสยอง หนุ่มอุดรฯ เชือดคอคนขับรถตู้เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 22 ก.พ. กลางเมืองเชียงใหม่ ก่อนหนีไปกบดานที่เพชรบูรณ์ จนถูกตำรวจตามไปตะครุบตัว ให้การซัดทอดเมียคนตายเป็นผู้วางแผน จึงตามไปตะครุบตัวได้อีกคนคาบ้านพักที่เชียงราย ขณะจัดงานศพผัวที่สั่งฆ่ากับมือ
ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 26 ก.พ. พนักงานสอบสวน สภ.แม่ปิง อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เบิกตัวนายบรรลือ อู่บุญทา อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาฆาตกรรมนายศุภกร ยาวิชัย อายุ 46 ปี เสียชีวิตหน้าคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ต.หนองป่าครั่ง อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ไปส่งฝากขังต่อศาลจังหวัดเชียงใหม่ โดยผู้ต้องหาไม่มีอาการสะทกสะท้านต่อความผิดที่ได้กระทำลงไป
รายงานข่าวแจ้งว่า ผู้ต้องหาสารภาพว่า รู้จักกับน.ส.วาทิตา หรือพัฒน์ บุญต่อม ตั้งแต่สมัยเรียน ต่อมานายบรรลือไปบวชอยู่ที่จ.เพชรบูรณ์ นานหลายปี เมื่อสึกออกมาก็ทำงานรับจ้างทั่วไป กระทั่งเล่นเฟซบุ๊กจนได้กลับมาติดต่อกันใหม่อีกครั้งหลังห่างไปนานกว่า 10 ปี จึงพูดคุยกันมาตลอด กระทั่งเดินทางไปหาฝ่ายหญิงที่ อ.เชียงของ จ.เชียงราย ก่อนจะมีความสัมพันธ์กันอย่างลึกซึ้ง และแอบพบกันสม่ำเสมอ
กระทั่งฝ่ายหญิงเล่าให้ฟังว่ามีเรื่องทะเลาะกับสามีเป็นประจำ แม้จะขอเลิกแต่อีกฝ่ายไม่ยอม และยังส่งเสียเงินทองให้ตลอดเวลา ล่าสุดทั้งคู่นัดพบกันอีกครั้งระหว่างวันที่ 12-14 ก.พ.ที่ผ่านมา ฝ่ายหญิงเกรงว่าสามีจะจับได้ว่ามีชู้ เพราะประจำเดือนขาดคาดว่าจะตั้งครรภ์ ทั้งคู่จึงวางแผนก่อเหตุดังกล่าวขึ้น
หลังเกิดเหตุ พ.ต.อ.สิทธิ์ศักดิ์ ศิริเดชอนันต์ ผกก.สภ.แม่ปิง ระดมกำลังเจ้าหน้าที่สืบหาเบาะแส จนได้ภาพขณะคนร้ายลงมือก่อเหตุ จึงตามแกะรอยจนพบว่านั่งรถจักรยานยนต์รับจ้างจากสถานีขนส่งเชียงใหม่ไปที่เกิดเหตุ จึงตามคนขี่รถจักรยานยนต์คันดังกล่าวมาสอบปากคำ จนได้ข้อมูลที่แน่ชัดจึงตามไปจับกุมตัวคนร้ายได้ในที่สุด เมื่อสอบปากคำคนร้ายก็รับสารภาพพร้อมให้การซัดทอดถึงน.ส.วาทิตา หรือพัฒน์ บุญต่อม ภรรยาผู้ตาย
เจ้าหน้าที่จึงรวบรวมเบาะแสจากข้อมูลในโทรศัพท์มือถือของผู้ตาย และของน.ส.วาทิตา ซึ่งเจ้าหน้าที่ขอเก็บไว้ขณะมาติดต่อขอรับศพ รวมถึงโทรศัพท์ของคนร้าย จากเบาะแสทั้งหมด เจ้าหน้าที่พบว่าก่อนเกิดเหตุน.ส. วาทิตาโทรศัพท์หาผู้ตาย จากนั้นโทร.หานายบรรลือ หลังจากก่อเหตุสำเร็จนายบรรลือได้โทรศัพท์หาน.ส.วาทิตาอีกครั้ง เมื่อรวมกับคำซัดทอดของผู้ต้องหา หลักฐานการโอนเงิน เจ้าหน้าที่จึงขออนุมัติหมายจับจากศาลและตามไปจับกุมน.ส.วาทิตาได้อีกคน
ต่อมาเวลา 16.00 น. วันเดียวกัน พนักงานสอบสวนไปรับตัวน.ส.วาทิตา จาก สภ.เชียงของ จ.เชียงราย มาสอบสวนที่สภ.แม่ปิง ท้องที่ เกิดเหตุ โดยตลอดเวลาผู้ต้องหามีอาการเคร่งเครียดไม่ยอมพูดจา และไม่ยอมรับประทานอาหารหรือน้ำดื่ม
พ.ต.อ.สิทธิ์ศักดิ์เปิดเผยว่า ตอนนี้ผู้ต้องหาผู้ชายได้ส่งฝากขังที่ศาลจังหวัดเชียงใหม่แล้ว ส่วนผู้ต้องหาผู้หญิงรายนี้ ขอให้พนักงานสอบสวนสอบปากคำเพิ่มเติมก่อน หากเสร็จคาดว่าน่าจะส่งตัวไปฝากขังในวันที่ 27 ก.พ. เบื้องต้น น.ส.วาทิตายังให้การภาคเสธอยู่ ยอมรับว่าคบหากับผู้ต้องหาฝ่ายชายเท่านั้น เจ้าหน้าที่สอบปากคำและแจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบและดำเนินการต่อไป
