คณะครู ระทึกน้ำป่าทะลัก ระหว่างทางกลับจากงานศพ ต้องทิ้งรถเดินลุย ฝ่าน้ำเชี่ยว สุดอันตราย โชคดีมีชาวบ้านบ้านคอยช่วย เตือนช่วงนี้หากเป็นไปได้ไม่ควรเดินทางเพียงลำพัง

วันที่ 4 ส.ค.2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง เผยคลิปเหตุการณ์เมื่อคืนที่ผ่านมา เวลาประมาณ 22.00 น. วันที่ 3 ส.ค.2566 ขณะที่ชาวบ้านและครู ใช้รถจยย.เดินทางออกจากบ้านเกาะสะเดิ่ง หมู่ 3 ต.ไล่โว่ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ตั้งแต่ช่วงเช้าเพื่อมุ่งหน้าไปร่วมงานศพของญาติ ที่บ้านกองม่องทะ หมู่ 2 ต.ไล่โว่ อ.สังขละบุรี ที่อยู่ห่างออกไปประมาณ 11 กม. ขณะนั้นฝนยังไม่ตกลงมาทำให้ไม่มีน้ำป่าไหลหลาก

แต่ระหว่างร่วมงานศพฝนได้ตกลงมาติดต่อกันนานหลายชั่วโมง หลังจากที่ทุกคนไปร่วมงานศพแล้วเสร็จ จึงขับขี่รถจยย.มุ่งหน้ากลับ ซึ่งเหลืออีกแค่ประมาณ 4 กม.เท่านั้นก็จะกลับถึงบ้านเกาะสะเดิ่ง แต่ปรากฎว่า น้ำในลำห้วยได้เพิ่มปริมาณสูงขึ้นและไหลเชี่ยว จึงจำเป็นต้องทิ้งรถจยย.เอาไว้กลางป่า แล้วตัดสินใจเดินลุยข้ามลำห้วยที่ระดับน้ำสูงเท่าอก โดยได้รับความช่วยเหลือจากชาวบ้านในละแวกนั้นมาช่วยกันนำพาครูและชาวบ้านข้ามลำห้วยได้อย่างปลอดภัย

นายภพธร กิตติคุณก้องไพร ครูโรงเรียนบ้านกองม่องทะ(สาขาบ้านเกาะสะเดิ่ง) หนึ่งในผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ และเป็นผู้นำคลิปมาโพสต์ลงในเฟซบุ๊ก เล่าว่า หลังจากเดินเท้าจากจุดที่ต้องลุยน้ำป่า มาถึงโรงเรียนได้อย่างปลอดภัยทั้งเพื่อนครูและชาวบ้าน

หลังเกิดเหตุได้โพสต์ลงโซเชียล เพื่อเตือนให้ชาวบ้านหรือผู้ที่มีความจำเป็นต้องเดินทางเข้าออกหมู่บ้านเกาะสะเดิ่งให้ระมัดระวัง เนื่องจากช่วงนี้มีฝนตกติดต่อกันมานานกว่า 1 สัปดาห์แล้ว ซึ่งภายหลังจากฝนตกมักจะเกิดน้ำป่าไหลหลาก จนบางครั้งสูงขึ้นมาท่วมถนน เนื่องจากเส้นทางเข้าออกหมู่บ้านเป็นเส้นทางป่า บางช่วงขนานไปกับแม่น้ำโรคี บางช่วงห่างจากแม่น้ำโรคี เพียง 1-2 เมตร เท่านั้น

นอกจากนี้ระหว่างทางต้องข้ามลำห้วยเล็กๆอีกหลายจุด ซึ่งลำห้วยเหล่านี้หากไม่เกิดน้ำป่าก็จะไม่มีปัญหาในการข้าม แต่หากเกิดน้ำป่าไหลหลาก ก็จะกลายเป็นปัญหา เนื่องจากระดับน้ำสูงขึ้นและไหลเชี่ยว อาจจะทำให้เกิดอันตรายได้ บางครั้งต้องรอนานหลายชั่วโมงกว่าน้ำจะลดลง ที่สำคัญการเดินทางในช่วงนี้หากเป็นไปได้ไม่ควรเดินทางเพียงลำพัง แต่ควรมีเพื่อนร่วมเดินทางไปด้วยเพื่อคอยช่วยเหลือยามเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน และควรพกพาไฟฉายติดตัวไปด้วยทุกครั้ง

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน