โอละพ่อ! สาวแจ้งตร.ถูกกระชากกระเป๋า ไล่กล้องไม่พบเหตุ จากผู้เสียหายกลายมาเป็นผู้ต้องหา แจ้งความเท็จ เผยส่งเงินให้ลูกหมด กลัวแฟนด่า จึงกุเรื่อง

เมื่อวันที่ 11 ส.ค.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โดยเหตุการณ์ดังกล่าวสืบเนื่องจาก เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านบึง จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งว่ามีเหตุกระชากกระเป๋าริมถนนสาย 349 ถนนหนองชาก – พนัสนิคม (ขาเข้าพนัสนิคม) ม.2 ต.หนองชาก อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี สายตรวจตำบลหนองชาก และชุดสืบสวน สภ.บ้านบึง จึงเดินทางเข้าตรวจสอบ

เมื่อมาถึงก็พบกับ น.ส.ธัญพิมล อายุ 31 ปี ที่อยู่ในท่าทีที่วิตกกังวล ยื่นรอให้การกับทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนว่า ช่วงเวลาประมาณ 17.42 น.ของวันที่ 10 ส.ค.ที่ผ่านมา ตนเดินเท้าออกจากร้านสะดวกซื้อ เพื่อกลับเข้าห้องพัก (เดินย้อนศร) ภายในซอยหนองชาก 2/5 ระหว่างทางที่กำลังเดินกลับ ถูกคนร้ายเป็นชาย 2 คนขี่จยย.ซ้อนท้ายกันมา คนที่นั่งซ้อนท้ายกระชากกระเป๋าถือสีเขียวที่มีเงินอยู่ภายในกระเป๋าจำนวน 300 บาท และโทรศัพท์มือถือในมือข้างซ้าย มูลค่า 5,900 บาทไป

โดยที่ตนจดจำรูปพรรณสัณฐานของคนร้าย เพียงแค่คนร้ายที่ซ้อนท้ายรูปร่างผอม สูง ผมสั้น หลังจากเกิดเหตุ เดินกลับไปที่ห้องเนื่องจากทำอะไรไม่ถูก และกลับมาที่จุดเกิดเหตุ ขอโทรศัพท์จากร้านขายส้มตำโทรหาแฟนหนุ่มของตน ที่พึ่งออกไปทำงานให้มาหาที่เกิดเหตุ เพื่อให้พาไปแจ้งความ

ต่อมาทางชุดสืบสวนและสายตรวจตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณที่เกิดเหตุ เพื่อย้อนดูเหตุการณ์ว่าคนร้ายใช้รถ รุ่น ยี่ห้อ สีอะไร แต่ไม่เห็นมีเหตุการณ์ตามที่น.ส.ธัญพิมล ให้การเอาไว้แต่อย่างใด กระเป๋าถือก็อยู่ในมือข้างหนึ่ง โทรศัพท์มือถือก็อยู่ในมืออีกข้างหนึ่ง เดินเข้าไปในซอยที่มีห้องพักปกติ

ด้าน ร.ต.อ.ฉลองศักดิ์ ภูเวียนวงศ์ หัวหน้าชุดสืบสวน จึงเรียกน.ส.ธัญพิมล มาพูดคุยเพื่อสอบถามให้แน่ใจ โดยแยกตัวมาให้ห่างจากแฟนหนุ่ม ถามอีกครั้งว่า ทั้งหมดที่เล่ามาเป็นความจริงหรือโกหก น.ส.ธัญพิมล ก็ยังยืนยันว่าเป็นเรื่องจริง มีคนร้ายมากระชากกระเป๋าถือกับโทรศัพท์ไปจริง ร.ต.อ.ฉลองศักดิ์ จึงแจ้งกับน.ส.ธัญพิมล ว่า ดูจากกล้องวงจรปิดแล้ว ไม่มีเหตุการณ์เกิดขึ้นเลย

เมื่อจำนนด้วยพยานหลักฐานจริงน.ส.ธัญพิมล จึงยอมรับว่าแต่งเรื่องขึ้นมาเอง เนื่องจากกลัวว่า ทางแฟนหนุ่มจะด่าเรื่องเงิน 300 บาทที่ตนแอบโอนให้ลูกไปเมื่อสักครู่ ตนเข้าไปร้านสะดวกซื้อ เพื่อโอนเงินที่เคาน์เตอร์ให้ลูกจริง (ลูกกับอดีตสามีเก่า) 300 บาท

หลังจากนั้นเดินกลับห้องพัก ไม่ให้แฟนหนุ่มรู้ว่าแอบส่งเงินให้ลูก จึงกุเรื่องขึ้นมาว่ามีคนร้ายกระชากกระเป๋ากับโทรศัพท์มือถือไป ตอนนั้นตนเดินกลับไปที่ห้องเอากระเป๋ากับโทรศัพท์ไปซ่อน ใต้ชั้นวางเสื้อผ้า และออกมารอแฟนหนุ่มบริเวณปากซอย เพื่อพาไปแจ้งความที่โรงพัก

น.ส.ธัญพิมล กล่าวต่อว่า ขอร้องให้ปกปิดเรื่องนี้เป็นความลับ ไม่ให้แฟนหนุ่มรู้ได้หรือไม่ ถ้าหากว่าแฟนหนุ่มรู้จะต้องถูกทำร้ายอย่างแน่นอน และไม่ให้เงินตนใช้อีก ตนเองไม่ได้ทำงาน ป่วยเหลือไตข้างเดียวอยู่เฉยๆไม่ได้ทำงาน เนื่องจากแฟนหนุ่มโมโหง่าย ใจร้อน ชอบลงมือทำร้ายตนอยู่บ่อยๆ ตนรักแฟนหนุ่มจึงยอมทน และขอพาเจ้าหน้าที่ตำรวจไปตรวจค้นในห้องพัก ตรงที่ตนเองเอากระเป๋ากับโทรศัพท์ไปซ่อน โดยไม่ให้แฟนหนุ่มไปร่วมตรวจค้นด้วย

ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งว่า ถ้าทำตามคำร้องขอ ก็จะทำให้แฟนหนุ่มเข้าใจผิดว่าเกิดเหตุจริง อีกอย่างเป็นการ กุเรื่องขึ้นมา เท่ากับเป็นการแจ้งความเท็จ ผิดกฎหมาย จึงจำเป็นที่จะต้องเชิญตัวมาบันทึกจับกุม ส่งพนักงานสอบสวน สภ.บ้านบึงดำเนินคดี

ส่วนเรื่องภายในครอบครัวจะเรียกแฟนหนุ่มมาปรับความเข้าใจต่อหน้ากัน ระหว่างทั้งคู่ ถ้าทำร้ายร่างกายก็มาแจ้งความดำเนินคดีว่าไปตามข้อเท็จจริง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน