สลด กระบะทึบ พุ่งชนท้าย รถอีแต๋น 3สาวร่างกระเด็นดับกลางถนน เจ็บอีก3

กระบะทึบ พุ่งชนท้าย รถอีแต๋น 3 สาวร่างกระเด็นเสียชีวิตกลางถนน บาดเจ็บอีก 3 ราย ในพื้นที่ จ.ชัยภูมิ เจ้าหน้าที่เร่งลงพื้นที่ให้การช่วยเหลือ

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 16 ส.ค.2566 ร.ต.อ.เกรียรติภูมิ ภูผาลินิน รองสารวัตร(สอบสวน) สภ.หนองบัวโคก รับแจ้งเหตุรถกระบะชนกับรถอีแต๋น บริเวณแผงขายแตงโม บ้านโนนตะโก ต.หนองบัวโคก อ.จัตุรัส จ.ชัยภูมิ ถนนหมายเลข 201 สายชัยภูมิ-สีคิ้ว ช่วงหลัก กม.ที่ 72-73 จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมแพทย์โรงพยาบาลอำเภอจัตุรัส และหน่วยกู้ภัยสว่างคุณธรรมอำเภอจัตุรัส

กระบะทึบ พุ่งชนท้าย รถอีแต๋น 3 สาวร่างกระเด็นเสียชีวิตกลางถนน บาดเจ็บอีก 3 ราย ในพื้นที่ จ.ชัยภูมิ

ที่เกิดเหตุพบร่างผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตนอนเกลื่อนถนน เจ้าหน้าที่จึงช่วยกันปฐมพยาบาลผู้บาดเจ็บนำตัวส่งโรงพยาบาลอำเภอจัตุรัส ทั้งหมด 3 ราย ซึ่งทั้ง 3 รายอาการสาหัส นอกจากนี้ ในที่เกิดเหตุยังพบผู้เสียชีวิต 3 ราย ซึ่งเป็นผู้หญิงทั้งหมด นั่งมาในรถอีแต๋น ทะเบียน ฆจ510 นครราชสีมา

ห่างออกไปอยู่บริเวณไหล่ทาง ยังพบรถกระบะตู้ทึบ เป็นรถส่งขนม ยี่ห้ออีซูซุ ทะเบียน 3ฒก4900 กรุงเทพมหานคร โดยมี นายจีรศักดิ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 41 ปี เป็นคนขับรถกระบะ มีอาการได้รับบาดเจ็บ

จากการสอบถามญาติของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บที่นั่งมาในรถอีแต๋นเดินทางออกจากบ้านมากับรถอีแต๋นเพื่อจะมาซื้อปุ๋ยที่ อ.จัตุรัส จึงได้เดินทางมาบริเวณดังกล่าว เพื่อที่จะยูเทิร์นกลับเข้าไปในเขต อ.จัตุรัส ระหว่างที่กำลังจะเข้ายูเทิร์น รถกระบะตู้ทึบอาจขับมาด้วยความเร็ว ก่อนพุ่งชนท้ายรถของญาติตน จนทำให้ทุกคนกระเด็นออกจากตัวรถบาดเจ็บและเสียชีวิตดังกล่าว

ด้าน นายจีรศักดิ์ กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้ขับรถกระบะตู้ทึบออกจากตัวเมืองชัยภูมิมุ่งหน้าไป จ.นครราชสีมา ถึงจุดเกิดเหตุซึ่งเป็นทางลงเนิน ตนได้ขับรถมาและมีรถขับตีคู่ตนมาด้วยความเร็ว รถที่ตีคู่มาหักหลบได้ทัน แต่ตนนั้นหักหลบไม่ทัน จนทำให้รถกระบะของตนนั้นพุ่งชนท้ายรถอีแต๋นอย่างจัง

ร.ต.อ.เกรียรติภูมิ ได้เข้าตรวจสอบในที่เกิดเหตุพร้อมบันทึกภาพไว้เป็นหลักฐาน อีกทั้งยังได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณใกล้เคียงพบว่า รถกระบะตู้ทึบขับมาด้วยความเร็วก่อนที่จะพุ่งชนท้ายรถอีแต๋นอย่างจัง อย่างไรก็ตาม ตนจะได้ให้แพทย์ทำการเจาะเลือดคนขับรถกระบะเพื่อตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ หากอาการดีขึ้นจะเชิญตัวมาสอบสวนอย่างละเอียด พร้อมทั้งสอบถามอาการผู้บาดเจ็บทั้ง 3 รายที่ยังคงรักษาตัวที่โรงพยาบาล ส่วนผู้เสียชีวิตจะได้ประสานญาติรับกลับไปบำเพ็ญกุศลทางศาสนาต่อไป