ครอบครัวสู้ชีวิต พ่อ-แม่พาลูกสาววัย 12 นักเรียนชั้นป.6 ออกเก็บขยะขายไม่อายใคร แม่หวังสานฝันลูกสาวอยากสอบเป็นตำรวจ ขณะที่น้องมายด์ ภูมิใจไม่อายเพื่อนที่โรงเรียน แม้โดนล้อตัวเหม็น
วันที่ 17 ส.ค.2566 ผู้สื่อข่าวได้พบกับครอบครัว มีนางนภาลัย ศรีสุดดี อายุ 49 ปี พร้อมสามี และน้องมาย ลูกสาว วัย 12 ปีกำลังช่วยกันหาเก็บขยะจากถังริมถนนในเขตเทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์ นำไปคัดแยกเก็บไว้ที่บ้านเช่าซอยร้านเกาะหลักทำฟัน ใกล้ถนนเกาะหลัก เขตเทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์ รอนำไปขายหารายได้ใช้จ่ายในครอบครัว
นางนภาลัย เล่าเรื่องราวชีวิตว่า ก่อนหน้านี้ครอบครัวเคยไปรับจ้างเฝ้าสวนแต่ต่อมานายจ้างประสบภาวะขาดทุนจึงเลิกจ้าง ทำให้ไม่รู้จะประกอบอาชีพอะไรจึงมาหาเก็บของเก่าขาย มีรายได้ประมาณ 300 บาทต่อวัน
นอกจากนั้นวันศุกร์วันเสาร์จะไปรับจ้างขายไก่ปิ้งหมูย่างที่ตลาดถนนคนเดินชายทะเลอ่าวประจวบฯ จึงพอที่จะทำให้ครอบครัวพออยู่รอดได้ ทุกๆวัน จะออกไปเก็บของเก่ากับสามี จากนั้นเมื่อลูกสาวเลิกเรียนก็จะไปรับพร้อมกับพาไปหาเก็บของเก่าก่อนกลับเข้าบ้าน
เมื่อถามว่าทำไมถึงยึดอาชีพนี้และอายหรือไม่ นางนภาลัยตอบว่า จะอายทำไมเป็นอาชีพที่สุจริต ชาวบ้านบางคนเมื่อเก็บของเก่าไว้ให้ก็จะโทรตามให้ไปเก็บเอามาขาย ที่ต้องสู้ชีวิตก็เพื่ออยากให้ครอบครัวกินดีอยู่ดีมีความสุข อยากให้ลูกสาวทั้งสองคนเรียนจบสูงๆ มีลูกสาว 2 คนคนโตกำลังเรียนกศน. ส่วนคนเล็กกำลังเรียนอยู่ชั้นป.6 ค่าเช่าห้องเดือนละ 1,500 บาท ก็ยังพอเหลือเงินค่าขนมให้ลูกไปโรงเรียน บางเดือนเงินไม่พอก็ต้องประหยัดให้พอให้อยู่ให้ได้
ส่วนน้องมายด์ บอกว่า ไม่อายใครที่หนูมีครอบครัวมีพ่อแม่ยึดอาชีพเก็บขยะขาย เพราะเป็นอาชีพที่สุจริต ไม่ได้เป็นโจร ไม่ได้ลักขโมยใคร ไม่ได้ไปฆ่าใคร ถึงแม้ว่าเวลาไปโรงเรียนจะถูกเพื่อนล้อเลียนว่า มายด์ตัวเหม็นก็ตาม หนูก็เฉยไม่ตอบโต้ปล่อยผ่านไป ไม่สนใจเพราะคิดว่าเป็นเรื่องที่ไร้สาระ
“ถึงหนูจะเรียนไม่เก่งมาก แต่หนูก็มีความฝันอยากจะเรียนให้จบปริญญาตรีเอามาฝากให้พ่อแม่ อยากสอบเป็นตำรวจ หนูจะมาช่วยพ่อแม่หาเก็บของเก่าและคัดแยกขายช่วงหลังเลิกเรียนและวันหยุดเสาร์อาทิตย์เพราะมีขวดเยอะ หนูพอใจในอาชีพที่ครอบครัวทำอยู่นี้ ไม่สนไม่อายใครและไม่ได้ขอใครกิน ถึงหนูจะจนก็ไม่เป็นไร เพราะเลือกเกิดไม่ได้ ระดับชั้นของคนไม่เท่ากัน จนรวยก็ไม่เท่ากัน “
