พิจิตร ชลประทานจังหวัด เร่งกักเก็บน้ำเข้าสู่บึงสีไฟ เอื้อประโยชน์ชาวบ้านทำเกษตร รักษาระบบนิเวศน์ ส่งเสริมท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ แจ้งเกษตรกรงดทำนาปีต่อเนื่อง หวั่นเอลนีโญส่งผลกระทบ

18 ส.ค. 66 – นายเอกฉัตร เอี่ยมตาล ผู้อำนวยการโครงการชลประทานจังหวัดพิจิตร กล่าวว่า ในระยะนี้จะมีฝนตกลงมาบ้างในพื้นที่ภาคเหนือแต่ปริมาณฝนค่อนข้างน้อยและแทบจะไม่มีน้ำกักเก็บตามความคาดการณ์ เมื่อเปรียบเทียบจากเดือนเดียวกันในปีที่ผ่านๆมา

ดังนั้นชลประทานจังหวัดพิจิตร จึงได้เร่งผันน้ำในช่วงฤดูฝนนี้มากักเก็บเข้าสู่แหล่งน้ำให้ได้มากที่สุด โดยเฉพาะบึงสีไฟ เป็นบึงน้ำจืดขนาดใหญ่ ซึ่งถือว่าเป็นหัวใจหลักของชาวจังหวัดพิจิตร โดยบึงสีไฟมีพื้นที่ทั้งหมด 5,390 ไร่ เป็นพื้นน้ำ 1,756 ไร่ ปัจจุบันมีน้ำอยู่ 11.43 ล้านลูกบาศก์เมตร จากความจุเต็ม 12.64 ล้านลูกบาศก์เมตร ความลึกเฉลี่ยนตอนนี้เกือบ 4 เมตร คิดเป็นกว่า 91 เปอร์เซ็นต์ของความจุ น้ำ

สำหรับบึงสีไฟ เป็นพื้นที่เก็บกักน้ำในช่วงฤดูน้ำหลาก ที่เหมือนแก้มลิงแหล่งสุดท้ายในจังหวัดพิจิตร ซึ่งมวลน้ำดังกล่าวนี้ส่วนหนึ่งก็จะนำไปให้เกษตรกรใช้ประโยชน์ทำการเกษตร พื้นที่โดยรอบๆบึงสีไฟ ทั้งในส่วนของฤดูแล้ง และฤดูฝน เราขอให้เกษตรกรได้ใช้น้ำก่อน เพราะว่าเป็นคลองส่งน้ำ โดยน้ำที่เหลือใช้จากการเกษตร ถึงจะผันนำเข้าบึงสีไฟ เริ่มผันน้ำสะสมมาตั้งแต่ประมาณ 1 พฤษภาคม ไปจนถึงปลายเดือนสิงหาคม

แต่เนื่องด้วยในปัจจุบันเกิดปรากฏการณ์ เอลนิโญ ฝนทิ้งช่วง ปริมาณน้ำกักเก็บตามเขื่อน แม่น้ำลำคลองมีปริมาณค่อนข้างน้อย ดังนั้นกรมชลประทาน สำนักชลประทานที่ 3 และชลประทานจังหวัดพิจิตรเองได้มีความห่วงใยเกษตรกรในเรื่องของการเพราะปลูกข้าว ฤดูนาปี

นายเอกฉัตร กล่าวอีกว่า จึงประชาสัมพันธ์ ขอความร่วมมือเกษตรกรชาวนา งดปลูกข้าวนาปีต่อเนื่อง หลังเก็บเกี่ยวเสร็จ หวั่นทำนารอบสองจะส่งผลให้พืชผลการเกษตรของเกษตรกรจะได้รับความเสียหายได้ในอนาคต เนื่องจากน้ำต้นทุนมีจำกัด ฝนตกค่อนข้างน้อย

นอกจากนี้การผันน้ำเข้าบึงสีไฟจะช่วยรักษาระบบนิเวศน์ภายในบึงสีไฟ เพื่อให้พันธุ์สัตว์น้ำที่มีอยู่ในบึงตามธรรมชาติ มีระบบนิเวศน์ที่ดีมีความอุดมสมบูรณ์ นอกจากนี้ยังส่งผลพวงการชุ่มชื่นทางธรรมชาติภายในบึงสีไฟ เรื่องการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติที่สวยงามพื้นที่รอบๆบึงสีไฟอีกด้วย เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้มาพักผ่อนชมนก ชมปลา ชมพันธ์สัตว์น้ำต่างๆมาหมายอีกด้วย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน