ขนของหนีตายระทึก ไฟไหม้ตลาดอินทร์บุรี อายุกว่า 100 ปี เผาวอดเสียหายกว่า 30 หลังคาเรือน เจ้าหน้าที่ระดมรถดับเพลิงกว่า 20 คันควบคุมเพลิง
วันที่ 20 ส.ค.2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 19 ส.ค.ที่ผ่านมา สถานีดับเพลิง อ.อินทร์บุรี ได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ร้านขายสีแห่งหนึ่งในตลาดอินทร์บุรี ม.6 ต.อินทร์บุรี อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมรถดับเพลิง
ขนของหนีตายระทึก ไฟไหม้ตลาดอินทร์บุรี อายุกว่า 100 ปี เผาวอดเสียหายกว่า 30 หลังคาเรือน
ที่เกิดเหตุพบไฟกำลังลุกไหม้กว่า 10 หลังคาเรือน โดยชาวบ้านในตลาดต่างขนย้ายข้าวของกันวุ่นวาย ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรได้กั้นรถใหญ่เพื่อไม่ให้ขวางรถดับเพลิง ซึ่งตอนนี้ระดมรถดับเพลิงมาร่วมสมทบเพื่อดับไฟกว่า 20 คัน ขณะที่ไฟยังไหม้ลามไปเรื่อย ๆ เนื่องจากตลาดอินทร์บุรี เป็นตลาดเก่าแก่บ้านเรือนชิดติดกัน เจ้าหน้าที่ดับเพลิงใช้เวลากว่า 4 ชั่วโมง จึงควบคุมเพลิงไว้ได้ บ้านเรือนที่ถูกไฟไหม้ประมาณ 30 หลังคาเรือน
จากการสอบถามชาวบ้าน กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุได้ยินเสียงคล้ายระเบิดดังขึ้นภายในตลาด ช่วงเวลาประมาณ 19.00 น. จากนั้นก็เกิดไฟไหม้ขึ้น ระหว่างเกิดเหตุเป็นช่วงตลาดปิด จึงทำให้ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ล่าสุดชาวบ้านในพื้นที่ที่อาศัยอยู่บริเวณใกล้เคียงต่างขนย้ายสิ่งของออกจากจุดเกิดเหตุเนื่องจากเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย
ส่วนสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ที่แท้จริง ต้องรอเจ้าหน้าที่ตรวจสอบอีกครั้ง ตลาดกลางอินทร์บุรี เป็นตลาดสดเปิดขายช่วงเช้า มีทั้งผักผลไม้และอาหาร บริเวณรอบ ๆ เป็นชุมชนย่านการค้าเก่าแก่ของคนสิงห์บุรี บริเวณอำเภออินทร์บุรี ซึ่งมีอายุกว่า 100 ปี เบื้องต้นสันนิษฐานว่าสาเหตุไฟไหม้เกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร และยังประเมินมูลค่าความเสียหายไม่ได้
Advertisement
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถสรุปสาเหตุที่แท้จริง แต่เบื้อต้นทราบว่าต้นเพลิงเกิดจากร้านขายของเก่าที่มีการจำหน่ายวัสดุก่อสร้าง เช่น สี ทินเนอร์ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบโดยละเอียดอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งเบื้องต้นมีบ้านเรือนประชนที่ได้รับผลกระทบจำนวนกว่า 30 หลังคารือน
ด้าย นายสุพจน์ ยศสิงห์คำ ผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี ซึ่งได้ลงไปบัญชาการเหตุการณ์ ได้มอบหมายนายอำเภออินทร์บุรี เทศบาลตำบลอินทร์บุรี ตั้งศูนย์อำนวยการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบทันที โดยให้จัดหาที่พักให้กับประขาขนที่บ้านเรือเสียหายก่อน และให้หน่วยงานที่เกี่ยวช้องเร่งให้การช่วยเหลือ
สำหรับความเสียหายในครั้งนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบ ทั้งในเรื่องของชีวิตและทรัพย์สินที่เสียหายโดยละเอียด เพื่อให้การช่วยเหลือต่อไป
