เปิดชนวนเดือด กลุ่มคนเชียร์แขก ลงเรือข้าม เกาะล้าน ยกพวกตะลุมบอน

นักท่องเที่ยวแตกตื่น กลุ่มคนเชียร์แขก ลงเรือข้าม เกาะล้าน ยกพวกตะลุมบอนกลางแหลมบาลีฮาย จ.ชลบุรี เปิดชนวนเดือด เผยคลิปนาทีเกิดเหตุ

วันที่ 27 ส.ค.2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 26 ส.ค.ที่ผ่านมา มีการเปิดเผยคลิปนาทีกลุ่มคนเชียร์ลูกค้าลงเรือสปีดโบ๊ทเที่ยวเกาะล้าน ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ยกพวกตีกัน บริเวณท่าเทียบเรือแหลมบาลีฮาย พัทยาใต้ เป็นคลิปวีดีโอยาวที่สามารถบันทึกภาพขณะเกิดเหตุไว้ได้ โดยทั้งสองกลุ่มที่ทะเลาะวิวาทด่าทอชกต่อยกันอย่างชุลมุน

นักท่องเที่ยวแตกตื่น กลุ่มคนเชียร์แขก ลงเรือข้าม เกาะล้าน ยกพวกตะลุมบอนกลางแหลมบาลีฮาย จ.ชลบุรี เปิดชนวนเดือด

ท่ามกลางความแตกตื่นตกใจของนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ที่กำลังจะเดินทางไปเที่ยวและกลับจากเกาะล้าน จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย ขณะเดียวกันมีเจ้าหน้าที่กิจการพิเศษเมืองพัทยาคอยห้ามปรามอยู่ตลอด แต่ทั้งสองฝ่ายยังคงไล่ทำร้ายกันโดยไม่สนใจคำสั่งห้ามแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่จึงต้องประสานขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจมาช่วยระงับเหตุก่อนทั้งสองฝ่ายจะแยกย้ายกันไป โดยจะเห็นว่าฝ่ายไหนที่หาเรื่องก่อน

โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่กิจการพิเศษ ยังคงตรึงกำลังดูแลความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยว เพราะเกรงว่าทั้งสองฝ่ายจะกลับมาก่อเหตุกันอีก ขณะที่สอบถามกับผู้บาดเจ็บของทั้งสองบริษัทซึ่งไม่ได้เปิดเผยข้อมูลชื่อบริษัททัวร์แต่อย่างใด ก่อนจะเดินหนีไป

ส่วนฝ่ายคู่กรณี เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมามีปัญหากันไปแล้วรอบหนึ่ง โดยกลุ่มคู่กรณีได้มาทำร้ายลูกน้องก่อน และเดินทางไปแจ้งความร้องทุกข์ไว้เป็นหลักฐานแล้ว กระทั่งมาช่วงเย็นฝ่ายคู่กรณีได้เดินมาเจอกับลูกน้องตน จึงเกิดการประทะกันอย่างชุลมุนตามที่ปรากฏในคลิปดังกล่าว

จากการสอบถาม นายบอย กล่าวว่า เหตุการณ์ตอนแรกทางฝั่งเสื้อเขียวได้เชียร์แขกอยู่แต่ทางแขกไม่ไปด้วย ตนจึงให้ลูกน้องเข้าไปคุย ก่อนทางเสื้อเขียวจะตะโกนมาว่า “ไม่ต้องไปคุยกับมัน ไปเลย ๆ” โดยแขกก็ไม่ไม่ได้สนใจ ทั้งสองฝ่ายเดินไปลงเรือโดยสารใหญ่ แต่จากปัญหาตนไม่ทราบแน่ชัดว่ามีเรื่องอะไรกัน คาดว่าเป็นเรื่องส่วนตัวของพนักงาน ก่อนมีปากเสียงกันจนเป็นเรื่องดังกล่าว ซึ่งตนก็พยามยามดูแลนักท่องเที่ยวทุกคน

ด้าน นายเอ (นามสมมติ) ซึ่งเป็นต้นเรื่อง กล่าวว่า ตนได้เชียร์แขกอยู่ ขณะที่ตนกำลังพูดคุยกับแขกโดยขายในราคา 250 บาท แต่คู่กรณีได้สั่งลูกน้องให้มาตัดราคา 150 บาทไปกลับเกาะล้าน ก่อนจะมีปากเสียงและมีการท้ากันต่อยตัวต่อตัว จากนั้น บอดี้การ์ดของอีกฝ่ายโดยอ้างตัวเองเป็นตำรวจ กระทั่งคนที่หันหน้ามาก็ถูกต่อยทันที ตนจึงวิ่งหนีออกมาเพื่อไปแจังความที่ สภ.เมืองพัทยา

นายเอ กล่าวต่อว่า จนเวลาผ่านมาถึงช่วงเย็น ตนกำลังนั่งหาแขกอยู่บริเวณลานจอดรถ ก่อนที่คู่กรณีตนจะยกพวกมา 6 คน พี่ชายของตนจึงเดินเข้าไปถามว่า “มึงล่อน้องกูทำไม” ก่อนจะมีการชกต่อยจนเรื่องบานปลายดังกล่าว

ต่อมา น.ส.ชลิตา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 38 ปี ลูกพี่ของนายเอ กล่าวว่า ช่วงสายวันนี้ลูกน้องของตนกำลังยืนเชียร์แขกอยู่หน้าศาลา ก่อนที่ทางคู่กรณีพยายามถูกทำร้ายจึงวิ่งหนีออกมาหาตน ตนจึงให้ลูกน้องเข้าแจ้งความในทันทีว่าเราถูกทำร้ายร่างกาย จนมาถึงช่วงเย็นที่ลูกของตนกำลังเก็บของอยู่ คู่กรณียกพวกมาและเข้าไปทำร้ายร่างกายลูกน้องของตน โดยมีปัญหากันมานานแล้ว

น.ส.ชลิตา กล่าวต่อว่า ทางคู่กรณีของตนมักชอบตะโกนด่าตนมาตลอดเพื่อยั่วโมโห พอตนไม่ตอบโต้ก็จะมีคำพูดตามหลังมาว่า “มึงอะมันกระจอก” และเวลาเชียร์แขกก็จะชอบมาตัดราคา โดยตนขาย 250 บาทไปกลับ อีกทางจะมาขายตัดราคาไปกลับเกาะล้าน 150 บาท ส่วนเรื่องตะโกนด่ากันมีปัญหากันมานานแล้ว โดยทะเลาะกันเกือบทุกวัน