ชาวบ้านร้องกองปราบฯ เอาผิดบริษัทขายกล้าไม้ ชวนลงทุนปลูกกระท่อม พอถึงกำหนดโดนเท ไม่รับซื้อทำสูญหลายเงินล้านบาท
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 28 ส.ค.66 ที่ ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) นายไพรัตน์ นรพัลลภ อายุ 65 ปี อดีตกำนัน ต.โพสาวหาญ อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมเกษตรกรจากหลายจังหวัดภาคกลาง รวม 13 คน เดินทางเข้าพบ ร.ต.ท.หญิง จันทิมา คุณโรจน์อังกูร รอง สว.กก.2 บก.ป. เพื่อแจ้งความหลังถูกบริษัทจำหน่ายพันธุ์กล้าไม้แห่งหนึ่ง หลอกให้ลงทุนปลูกต้นกระท่อม แต่พอถึงกำหนดกลับไม่รับซื้อผลผลิตตามที่ตกลงกันไว้ จนได้รับความเดือดร้อนเพราะต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายรวมความเสียหายมูลค่าหลายล้านบาท
นายไพรัตน์ กล่าวว่า เมื่อปี 2564 มีตัวแทนบริษัทจำหน่ายกล้าไม้แห่งหนึ่ง โฆษณาชักชวนให้เกษตรกรต่างๆในพื้นที่หลายจังหวัดของภาคกลาง อาทิ จ.พระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี อ่างทอง สิงห์บุรี ชัยนาท และ ลพบุรี ลงทุนซื้อต้นกล้ากระท่อมของบริษัทไปปลูก อ้างว่าจะรับซื้อผลผลิตจำพวกใบกลับคืนในราคากิโลกรัมละ 170 บาท แต่พอถึงกำหนดครบ 1 ปี กลับไม่มีการรับซื้อตามที่ตกลงกันไว้ บางรายที่รับซื้อก็จะถูกกดราคาเหลือแค่กิโลกรัมละ 30 บาท
นายไพรัตน์ กล่าวต่อว่า นอกจากเงินลงทุนต้นกล้าแล้ว พวกตนยังต้องแบกรับภาระค่าปุ๋ย ค่าน้ำ ค่าใช้จ่ายอื่นๆเป็นจำนวนมาก เฉลี่ยแล้วคิดเป็นเงินไร่ละ 1 แสนบาทขึ้นไป ที่ผ่านมามีผู้หลงเชื่อเกือบ 60 ราย เฉพาะกลุ่มของตนก็ประมาณ 15-16 ราย รวมความเสียหายหลายล้านบาท จึงตัดสินใจรวมตัวเข้าร้องขอความเป็นธรรมกับทางกองปราบฯ ให้ช่วยเหลือทางคดีด้วย
เบื้องต้น พนักงานสอบสวนได้ทำการสอบปากคำผู้เสียหาย ก่อนนำพยานหลักฐานต่างๆ มาตรวจสอบ และส่งเรื่องให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการต่อไป
