นักวิชาการ ชี้ “พล.ต.อ.เพิ่มพูน” คุม ศธ. ทำโอกาสการศึกษาเป็นศูนย์ ไร้ความหวัง ประชาชนต้องรับกรรม ไม่เป็นธรรมต่อ เด็ก เยาวชน ผู้ปกครอง

31 ส.ค. 66 – นายสมพงษ์ จิตระดับ นักวิชาการด้านการศึกษา เปิดเผยว่า จากกระแสข่าวการจัดตั้งคณะรัฐมนตรีของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี พบว่า ผู้ที่จะมาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) คือ พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ ส่วนรัฐมนตรีช่วยว่าการ ศธ. คือ นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุลนั้น

ตนมองว่า ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง โอกาสทางการศึกษาจะดับวูบ เป็นศูนย์ทันที ประชาชนจะรู้สึกยี้อยู่ในใจว่าใครมาเป็นรัฐมนตรีว่าการ ศธ. การที่เอาคนไม่มีภูมิหลัง ไม่มีความสนใจด้านการศึกษา ไม่มีผู้งานด้านการศึกษา มาดูแลการศึกษาของประเทศ ตนมองว่า เรื่องนี้ไม่เป็นธรรมกับเด็ก เยาวชน และผู้ปกครอง

นายสมพงษ์ กล่าวต่อว่า อีกทั้งที่ผ่านมา จะพบว่าตั้งแต่ นายเศรษฐา รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ไม่เคยพูดเรื่องการศึกษาเลย พูดแต่เรื่องการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจเท่านั้น และจะพบว่า นโยบายด้านการศึกษาของพรรคภูมิใจไทย (ภท.) มีน้อย คือ มีนโยบายเดี่ยว คือ การปลอดดอกเบี้ยกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) เท่านั้น

ถือเป็นนโยบายอนุรักษ์ประชานิยม การทำงานก็จะเป็นลักษณะเดิม คือ แบ่งงานตามกรม ตามโควตา ยิ่งทำให้คนเห็นว่า ภาพลักษณ์ศธ.ตกต่ำลง ดูไร้ความหวัง และจะไม่เห็นแนวความคิดเรื่องการปฏิรูปการศึกษาจากพรรค ภท.เลย

นายสมพงษ์ กล่าวต่อว่า การเลือกรัฐมนตรีว่าการ ศธ. เช่นนี้ ทำให้ประชาชนต้องรับกรรม และผิดหวังเรื่องการศึกษาไป เพราะพรรคที่มาดูนั้น ไม่มีนโยบายการศึกษาที่เด่นชัด การปฏิรูปการศึกษา ก็ไม่มี รัฐมนตรีว่าการ ศธ. ที่จะเข้ามาดูแล ก็ไม่มีผลงาน ไม่มีภูมิหลัง วิสัยทัศน์ทางการศึกษาเลย อีกทั้งผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อเป็นรัฐมนตรีว่าการ ศธ. ก็มีประเด็นที่ประชาชนคลางแคลงใจสงสัยอยู่ คือ เรื่องคดีของ บอส อยู่วิทยา

“ปัจจุบันเราพบวิกฤตทางการศึกษาที่รอการขับเคลื่อนของรัฐบาลชุดนี้ คือ ต้องเร่งพลักดัน พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ ฉบับใหม่ การจัดทำหลักสูตรฐานสมรรถนะ ความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา ปัญหาภาวะการถดถอยทางการศึกษาที่ทำให้เราอาจจะสูญเสียเด็กทั้งรุ่น ถ้าเราไม่มีนโยบายการเรียนการสอนที่มาดูแลปัญหานี้อย่างจริงจัง

นอกจากนี้จะพบปัญหาเด็กออกจากการศึกษากลางคันที่รุนแรง และวิกฤตหนักขึ้น ส่วนปัญหาของครู จะพบว่า ชีวิตความเป็นอยู่ของครู ที่ครูรุ่นใหม่อยากลาออกมากขึ้น ผู้ที่ทำอาชีพครูในครูปัจจุบันก็งานหนัก ต้องทำงานเอกสาร จนไม่มีเวลาเตรียมการสอน”นายสมพงษ์ กล่าว








Advertisement

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน