คนหายเป็นศพ! หนุ่มดับปริศนาคาร่องน้ำ กลางทุ่งนา เผยเพิ่งวิดีโอคอลกับแม่ ก่อนขาดการติดต่อไป 2 วัน เจ้าของที่นาบอก เขาคงอยากกลับบ้านจึงทำให้เราเห็น
กรณีสื่อโซเชี่ยลช่วยกันแชร์ตามหาคนหาย เมื่อวันที่ 31 ส.ค. ที่ผ่านมา ระบุว่า “นายปัญญา ชาอุ่น อายุ 30 ปี เนื่องจากไปสมัครงานที่ จ.ชัยนาท และกำลังจะเดินทางกลับ จ.สระบุรี แล้วเกิดอุบัติเหตุ ที่ ต.บางขุด อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท แล้วขาดการติดต่อ เวลาประมาณ 12.00 น. ตอนนี้ยังติดต่อไม่ได้ ญาติทางบ้านเป็นห่วงมากค่ะ”
ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 2 ก.ย.66 ร.ต.อ.โสธร สุขแก้ว รองสว.(สอบสวน) สภ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท รับแจ้งมีคนพบศพผู้ชาย ลอยอืดในร่องน้ำกลางทุ่งนา บริเวณหมู่ 7 ต.บางขุด อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท จึงรุดไปตรวจสอบ พร้อมแจ้งแพทย์เวรโรงพยาบาลสรรคบุรี และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูชัยนาท
ที่เกิดเหตุบริเวณกลางทุ่งนา เดินทางจากถนนสายหลักประมาณ 2 กม. พบศพผู้ชายในร่องน้ำ ความลึกประมาณ 30 เซนติเมตร สภาพขึ้นอืดส่งกลิ่นเหม็น สวมเสื้อยืดแขนสั้นสีเทา กางเกงขาสั้นสีดำ มีเสื้อแจ๊กเก็ตสีกรมท่าอยู่กับศพ จากการตรวจสอบทราบชื่อ นายปัญญา ชาอุ่น อายุ 30 ปี ภูมิลำเนาอยู่ที่ อ.วังเจ้า จ.ตาก
จากการสอบสวนทราบว่า แม่ของผู้ตายแจ้งความคนหายเมื่อวันที่ 1 ก.ย.ที่ผ่านมา ที่สภ.สรรคบุรี หลังจากลูกขาดการติดต่อและพบรถจักรยานยนต์ พร้อมกระเป๋าสัมภาระ แต่ไม่พบคนขี่ตั้งแต่เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 31 ส.ค. ชาวบ้านจึงช่วยกันตามหา จนมาพบเป็นศพในวันนี้
Advertisement
ซึ่งจุดที่พบศพห่างจากจุดที่รถจยย.ล้มประมาณ 500 เมตร แพทย์ระบุหลังตรวจชันสูตรพลิกศพ คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วเป็นเวลา 2 วัน ไม่พบร่องรอยการถูกทำร้าย ด้านครอบครัวของผู้เสียชีวิตไม่ติดใจสาเหตุการเสียชีวิต จึงมอบศพให้บำเพ็ญกุศลตามประเพณี
นางนิตยา อายุ 48 ปี เจ้าของนา ผู้พบศพคนแรก เล่าว่า เช้าวันนี้มาดูน้ำในนา พอเดินมาใกล้ได้กลิ่นเหม็น พอเดินมาถึงร่องน้ำก็เห็นศพคว่ำหน้าอยู่ ทีแรกไม่รู้ว่าใช่คนที่ตามหากันหรือไม่ จึงเรียกเพื่อนชาวนาใกล้เคียงมาดู ยืนยันว่าใช่ศพของคนที่ตามหากันเมื่อวาน จึงโทรหาผู้ใหญ่บ้านว่า พบศพที่ท้ายนา ปกติมาดูน้ำนาทุกวันแต่ก่อนหน้านี้เว้นไป 2 วัน ปวดฟันจึงไม่ได้มา วันนี้มาเจอเป็นคนแรก เขาคงอยากกลับบ้านจึงทำให้เราเห็น คนอื่นมาดูน้ำนากันหลายคนก็ไม่มีใครเห็น
ด้าน นายพิชิต พรหมมี อายุ 55 ปี ชาวนาที่เห็นเหตุการณ์ก่อนเสียชีวิต เล่าว่า เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 31 ส.ค. เห็นนายปัญญาขี่จยย.มาบริเวณนาของตน ได้เตือนเขาว่าไม่มีทางไปแล้ว มีแต่คันนา เขาขี่ไปสุดทางแล้วนั่งอยู่พักหนึ่ง แล้วเดินมาหาตน
จากนั้นขอเลขบัญชีจะโอนเงินให้ รู้สึกกลัว จึงบอกไปว่าไม่มีเลขบัญชี ได้ยินเขาคุยโทรศัพท์กับใครไม่รู้ว่า กำลังจะไปสระบุรี ตอนนี้อยู่ในไร่ข้าว ทำให้รู้ว่าไม่ใช่คนแถวนี้ แล้วตนก็กลับบ้านไป ตอนเย็นมาดูอีกทีเจอแต่รถล้มอยู่ แต่ไม่เห็นคนขับ จึงประสานให้ผู้ใหญ่บ้านมาเก็บรถไปไว้ที่ปลอดภัย
ร.ต.อ.โสธร สุขแก้ว รองสว.(สอบสวน) สภ.สรรคบุรี เปิดเผยว่า ก่อนหน้าที่นายปัญญาจะขี่จยย.มาที่นี่เข้าไปสัมภาษณ์งาน ที่โรงเบียร์เปิดใหม่ ที่อ.หันคา ยังไม่ทันได้เริ่มงานบอกว่า จะกลับบ้านไปหาแม่ที่สระบุรี และขี่จยย.ออกมาจากอ.หันคา พร้อมสัมภาระ ซึ่งหลังรถจยย.ล้ม เขาถ่ายรูปและส่งโลเคชั่นส่งให้แม่ พร้อมวีดีโอคอลคุยกับแม่ตลอดทาง
แต่พอใกล้ถึงช่วงค่ำวันที่ 31 ก.ย.66 สัญญาณโทรศัพท์หายไป จึงหากันไม่เจอ วันรุ่งขึ้น (1ก.ย.) แม่จึงเข้าแจ้งความคนหาย และพบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้าเวฟ สีขาว-ดำ ทะเบียน 1กย8660 ระยอง พร้อมสัมภาระ เสื้อผ้า และเต็นท์ อยู่กลางทุ่งนา ซึ่งมีน้ำท่วมขังอยู่
